30-6-2010
อยู่มาพักใหญ่ อดไม่ได้ที่จะค้นหาไรที่มันแตกต่างในนิวซีแลนด์ที่เมืองไทยไม่มี นั่งคิดไรไปเพลินๆในช่วงเย็นวันอาทิตย์อันเงียบสงบ กีวี่*นี่เค้าทำไรกันบ้างน้าาาา ทีวีก็ไม่มีละครน้ำเน่าให้ดู ไม่มีเกมส์โชว์ตลกๆ อากาศก็แสนจะหนาวเหน็บ ข้าวของก็แพง ห้างใหญ่ๆก็ไม่ค่อยมี เฮ้ออออ....
ว่าแล้วความเงียบช่วงวันหยุดของเมือง Auckland (โอ๊คแลนด์) ก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะย้อนนึกถึงชีวิตชีวาของทริปเกาะใต้ของนิวซีแลนด์เมื่อ 2 ปีก่อน คิดถึงความงามของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใช้คำว่าสวยจนตะลึงจนประทับใจให้ไม่รู้ลืม แต่พอมาอยู่เข้าจริงๆช่างแตกต่างจากการมาเที่ยว
ที่โอ๊คแลนด์นี่เงียบสงัด จนทำให้ต้องย้อนนึกถึงการมาเที่ยวที่เรา
วางแผนการเดินทางแบบขับรถเลียบเขาชมวิวเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ดินแดนที่สวยที่สุดในโลก(ในความคิดของฉั้น) ไม่ว่าแผนการเดินทางจะเป็นทางตะวันออกหรือทางตะวันตก บรรยากาศก็สวยงามไม่แพ้กัน ที่นิวซีแลนด์แบ่งเป็นสองเกาะ เหนือกะใต้ ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิกซ์ตอนตะวันตกเฉียงใต้ ธรรมชาติสร้างเกาะใต้ไว้สวยงามมาก ทำให้เกาะเหนือดูจะเงียบเหงาไปเล็กน้อยสำหรับนักท่องเที่ยว แต่เมืองโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจที่สำคัญของประเทศก็ยังน่าเที่ยวเพราะความสวยงามและบรรยากาศก็ดีไม่น้อย และยังมี Wellington (เวลลิงตัน) เป็นเมืองหลวงซึ่งอยู่ทางใต้สุดของเกาะเหนืออีกเมืองที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เราเริ่มต้นการเดินทางด้วยการนั่งเครื่องบินมาลงที่โอ๊คแลนด์ก่อน เพื่อสัมผัสบรรยากาสแบบ City Tour เช่นเดียวกับการเตรียมตัวเดินทางทุกครั้ง เตรียมกล้องดีๆซักตัว เสื้อผ้าสีสันสดใส การนอนให้เต็มอิ่มและดื่มน้ำให้เยอะๆเพื่อหลีกเลี่ยงอาการ Jet lag เที่ยวโอ๊คแลนด์เสร็จแล้วก็นั่งเครื่องบินภายในประเทศมายัง Christchurch เกาะใต้ ถึงแล้วก็เริ่มออกเดินทางด้วยการเช่ารถกับ Avis ด้วย Mitsubishi Pajero รถพร้อมลุยของเรา สิ้นสุดการเดินทางที่ไหนก็เอารถไปคืนแถวนั้น ง่ายดี!!
Christchurch เป็นเมืองเล็กๆที่ไม่เงียบเหงา มีโบสถ์คริสต์ที่ประดับตกแต่งไสตล์โกธิกโบราณสวยงามเป็นสัญลักษณ์ ด้านหน้ามีลานให้เดินเล่น นั่งเล่น พร้อมด้วยลานหมากรุกขนาดใหญ่ ที่ตัวหมาก นั้นขนาดเท่าคนเล่นเลย ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง...ดูกี่ทีก็น่ารักดี
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโบสถ์ พร้อมกับร้านอาหารให้เลือกมากมาย ยามค่ำคืนกับดินเนอร์แสนโรแมนติก ที่ไม่ควรพลาดเมนูเนื้อแกะ เพราะมานิวซีแลนด์ไม่ลองเนื้อแกะคงไม่ได้ เพราะที่นี่ วัวและแกะถือเป็นสัตว์ที่มีจำนวนประชากรมากกว่าประชากรคนซะอีก เนื้อวัวและเนื้อแกะจึงมีคุณภาพและราคาให้เลือกหลายระดับแถมอร่อยซะด้วย
ว่าแล้วความเงียบช่วงวันหยุดของเมือง Auckland (โอ๊คแลนด์) ก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะย้อนนึกถึงชีวิตชีวาของทริปเกาะใต้ของนิวซีแลนด์เมื่อ 2 ปีก่อน คิดถึงความงามของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใช้คำว่าสวยจนตะลึงจนประทับใจให้ไม่รู้ลืม แต่พอมาอยู่เข้าจริงๆช่างแตกต่างจากการมาเที่ยว
ที่โอ๊คแลนด์นี่เงียบสงัด จนทำให้ต้องย้อนนึกถึงการมาเที่ยวที่เรา
วางแผนการเดินทางแบบขับรถเลียบเขาชมวิวเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ดินแดนที่สวยที่สุดในโลก(ในความคิดของฉั้น) ไม่ว่าแผนการเดินทางจะเป็นทางตะวันออกหรือทางตะวันตก บรรยากาศก็สวยงามไม่แพ้กัน ที่นิวซีแลนด์แบ่งเป็นสองเกาะ เหนือกะใต้ ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิกซ์ตอนตะวันตกเฉียงใต้ ธรรมชาติสร้างเกาะใต้ไว้สวยงามมาก ทำให้เกาะเหนือดูจะเงียบเหงาไปเล็กน้อยสำหรับนักท่องเที่ยว แต่เมืองโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจที่สำคัญของประเทศก็ยังน่าเที่ยวเพราะความสวยงามและบรรยากาศก็ดีไม่น้อย และยังมี Wellington (เวลลิงตัน) เป็นเมืองหลวงซึ่งอยู่ทางใต้สุดของเกาะเหนืออีกเมืองที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เราเริ่มต้นการเดินทางด้วยการนั่งเครื่องบินมาลงที่โอ๊คแลนด์ก่อน เพื่อสัมผัสบรรยากาสแบบ City Tour เช่นเดียวกับการเตรียมตัวเดินทางทุกครั้ง เตรียมกล้องดีๆซักตัว เสื้อผ้าสีสันสดใส การนอนให้เต็มอิ่มและดื่มน้ำให้เยอะๆเพื่อหลีกเลี่ยงอาการ Jet lag เที่ยวโอ๊คแลนด์เสร็จแล้วก็นั่งเครื่องบินภายในประเทศมายัง Christchurch เกาะใต้ ถึงแล้วก็เริ่มออกเดินทางด้วยการเช่ารถกับ Avis ด้วย Mitsubishi Pajero รถพร้อมลุยของเรา สิ้นสุดการเดินทางที่ไหนก็เอารถไปคืนแถวนั้น ง่ายดี!!
Christchurch |
Christchurch เป็นเมืองเล็กๆที่ไม่เงียบเหงา มีโบสถ์คริสต์ที่ประดับตกแต่งไสตล์โกธิกโบราณสวยงามเป็นสัญลักษณ์ ด้านหน้ามีลานให้เดินเล่น นั่งเล่น พร้อมด้วยลานหมากรุกขนาดใหญ่ ที่ตัวหมาก นั้นขนาดเท่าคนเล่นเลย ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง...ดูกี่ทีก็น่ารักดี
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโบสถ์ พร้อมกับร้านอาหารให้เลือกมากมาย ยามค่ำคืนกับดินเนอร์แสนโรแมนติก ที่ไม่ควรพลาดเมนูเนื้อแกะ เพราะมานิวซีแลนด์ไม่ลองเนื้อแกะคงไม่ได้ เพราะที่นี่ วัวและแกะถือเป็นสัตว์ที่มีจำนวนประชากรมากกว่าประชากรคนซะอีก เนื้อวัวและเนื้อแกะจึงมีคุณภาพและราคาให้เลือกหลายระดับแถมอร่อยซะด้วย
จาก Christchurch หากเดินทางไปทางตะวันตก ขับรถไปเรื่อยๆจะผ่านเมืองเล็กๆหลายเมือง ซึ่งที่นิวซีแลนด์ถึงแม้จะไม่อันตรายในแง่โจร ผู้ร้าย ชุกชุม แต่หากตะวันตกดินเมื่อไร บ้านเมืองก็เงียบสงัด แถมมืดตึ๊ดตื๋ออีกด้วย เพราะฉะนั้นการวางแผนเดินทางจึงควรเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ และวางแผนการเดินทางด้วยเวลาที่รัดกุม เพื่อการขับรถจะได้ไม่พลาดเมืองเล็กๆที่เหมาะแก่การแวะถ่ายรูปเก็บบรรยากาศสวยๆไปอย่างน่าเสียดาย
Hokitika Town คือ จุดหมายถัดมา เมืองเล็กๆที่ผลิตหยกคุณภาพดี ถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของนิวซีแลนด์ มีดีไซน์แปลกตาด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์แบบชาวเมารี* ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ส่วนตัวฉั้นอาจจะไม่นิยมหยกและไม่ได้หลงไหลในดีไซน์ดังกล่าวซักเท่าไร แต่ก็อดไม่ได้ที่ซื้อติดไม้ติดมือมาเป็นของที่ระลึก และนอกจากหยก ธรรมชาติของเมืองเล็กๆเมืองนี้ก็มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปมากมาย เราจึงเก็บภาพประทับใจจากสองข้างทางจนเต็มอิ่ม
เราค้างหนึ่งคืนในโมเท็ลเล็กๆที่นั่นซึ่งมี Welcome Drink เป็นนมหนึ่งกล่อง!! :-) และออกจาก Hokitika Town เพื่อเดินทางต่อในโปรแกรมถัดไปตั้งแต่เช้าตรู่ ภูเขาน้ำแข็ง หรือ The Grazier อันอลังการ เป็นที่หนึ่งที่ประทับใจ ที่นี่สวยงามมากตามเคย เพราะถือว่าเราได้มายืนอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา และได้สัมผัสกับน้ำแข็งบนภูเขาจริงๆ แม้ตอนที่ฉั้นไปนั้นจะไม่ใช่ฤดูหนาว เป็นช่วงเมษายนซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง น้ำแข็งจึงละลายไปมาก แต่ก็ยังเหลือให้ได้เห็นและสัมผัสความเย็นยะเยือกอยู่
เพราะทุกที่ที่ผ่าน สร้างความตะลึงงันไม่หยุดหย่อน ทั้งธรรมชาติที่เห็น ถนนที่แล่นผ่าน ภูเขาที่ผุดขึ้นซ้อนกันคล้ายกำลังอยู่ในหนังสามมิติยังไงอย่างงั้น บางที่ที่เราผ่าน...เรียกว่าสวยเกินคำบรรยาย จนคำว่า "สวย!" "สวยจังเลย!" "สวยอะไรอย่างงี้!" "สวยมาาาาาก!" หลุดออกจากปากโดยไม่ได้ตั้งใจหลายต่อหลายครั้งไปตลอดเส้นทาง!! เราออกจาก The Grazier เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองถัดไป แต่ก็ยังไม่วาย หยุดพักเก็บภาพประทับใจเป็นระยะๆไปตลอดทาง
ความงามทำเอาเราเพลิดเพลินจนกระทั่งมาถึงที่ Blue Pools แหล่งน้ำธรรมชาติทีมีสีฟ้าสดใส ชวนให้นึกถึงน้ำที่ผสมคลอรีนในสระว่ายน้ำซะจริง เป็นความงามที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เราแวะที่นี่เพราะเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว และอยากเห็นความงามของบ่อน้ำดังกล่าวแต่กว่าจะเข้าไปเจอบ่อน้ำก็ต้องเดินผ่านป่าเล็กๆเข้าไปก่อน แต่คำว่าป่าเล็กๆนั้น พอเข้าไปจริงๆ ตัวเราเหลือเล็กเท่ามด เพราะต้นไม้แต่ละต้นอายุอานามคงเป็นร้อยๆปี สูงใหญ่และดูอุดมสมบูรณ์ ภายในป่านั้นก็อากาศเย็นชื้น ชื่นใจ
โชคดีที่นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ไม่มีงู ไม่ว่าจะเป็นงูพิษหรืองูไม่มีพิษ ก็ปราศจากโดยสิ้นเชิง จึงเป็นเหตุผลนึงที่ประเทศนี้ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำอะไรที่แปลกปลอมเข้าประเทศเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ต้นไม้ หรือสัตว์ ฯลฯ และเข้มงวดอย่างมากกับการตรวจตรา หากเจ้าหน้าที่พบว่าใครน้ำสิ่งของต้องห้ามเข้ามาละก็ อัตราค่าปรับเป็นแสนบาท ถึงขั้นแสนสาหัสกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยนานับประการสำหรับประเทศเค้านั่นเอง นอกจากจะปลอดภัยจากผู้ร้ายแล้ว การเดินทางแบบนี้ยังปลอดภัยจากสัตว์ร้ายอีกด้วย น่าทึ่งจริงๆ
เมื่อดื่มด่ำธรรมชาติใน Wanaka เต็มอิ่ม ตกสายเราก็ออกเดินทางกันต่อ เพื่อมุ่มหน้าไปยัง Queenstown และนั่นคือ จุดหมายปลายทางสำหรับทริปนี้ของเรา ฉั้นออกจะตื่นเต้นพอสมควรกับการเดินทางไปยัง Queenstown เพราะคำร่ำลือว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งของนิวซีแลนด์เป็นเมืองท่องเที่ยวที่หากไปนิวซีแลนด์แล้วไม่ได้ไปที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงแน่นอน นอกจากความสวยแล้ว ยังมีกิจกรรมหลายอย่างที่นั่น ที่พลาดไม่ได้ก็คือ การนั่งกระเช้า Skyline ขึ้นไปชมวิวสูงสุดบนยอดเขา ใครที่ชื่นชอบความเสียว ก็ขอแนะนำให้ไปเล่น บันจี้ จัมพ์ เพราะโดดที่นี่ไม่แตกต่างจากกระโดดหน้าผาทีเดียวเชียว และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างคือ Shotover Jet หรือขอเรียกมันว่า เรือซิ่ง ก็แล้วกัน เป็นเรือเร็วขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก จุคนได้ประมาณ 10-15 คน โดยเรือจะถูกขับเคลื่อนอย่างเร็วและม้วนตัวกลับอย่างแรง เพื่อให้น้ำสายกระเซ็นเปียกปอนกันถ้วนหน้า คนขับเรือนอกจากจะหน้าตาหล่อเหลาเอาการเพื่อเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวสาว(โสด)ได้ชื่นหูชื่นตาแล้ว ยังขับเรือได้ซิ่งมากๆ เรียกว่า ในหุบเขา ถึงจะสวยแค่ไหน ก็คงไม่มีเวลาได้ยลเพราะมัวแต่ม้วนหน้าม้วนหลังไปกับเรือจนมึนไปหมด แถมยิ่งเสียงกรี๊ดดังได้ใจเท่าไร สุดหล่อก็ยิ่งม้วนตัวแรงขึ้นเท่านั้น หมดรอบ ก็เปียกเป็นลูกแมวตกน้ำกันทุกคน มันส์ดีไปอีกแบบ
Skyline สถานีกระเช้าลอยฟ้า |
จุดชมวิวจากบนสุดของยอดเขา |
บั้นจี้ จั้มพ์ สุดเสียว |
เรือซิ่ง "Shotover Jet" |
การพักที่ Queenstown ถือเป็นการพักผ่อนที่แสนประทับใจ เพราะบรรยากาศช่างดีเกินคำบรรยาย ทั้งวิว ทั้งธรรมชาติ ทั้งอากาศ ทั้งร้านค้า สถานที่และกิจกรรมต่างๆ เรียกว่า สมบูรณ์แบบ สวยและสะดวกสบาย มีนักท่องเทียวมากมายเดินทางมาที่นี่ ฉั้นอิ่มเอมกับธรรมชาติและบรรยากาศ สูดดมกลิ่มหอมๆของอากาศอันสดชื่น นอนกลิ้งบนยอดหญ้าริมทะเลสาป ชมวิวพระอาทิตย์ตกท่ามกลางไอแดดอุ่นๆ ชื่นชมแม้กระทั่ง ดอกไม้ ใบไม้บนพื้นดิน โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ต้นไม้ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ทำให้มีสีสันหลากหลายสวยงาม ช่างเป็นภาพที่ประทับใจ ไม่มีวันลืม
การเที่ยวนิวซีแลนด์ครั้งนั้น ถือ เป็นการท่องเที่ยวที่ประทับใจที่สุดในชีวิต ฉั้นเก็บอัลบั้มรูปอย่างดีและเก็บรายละเอียดทุกอย่างไว้ในความทรงจำ
ฉั้นตื่นจากภวังค์กลับเข้าสู่โลกความจริง ถึงแม้ตอนนี้จะอยู่ที่นิวซีแลนด์ แต่การอยู่ที่โอ๊คแลนด์ช่างแตกต่างกับการไปเที่ยวครั้งนั้น ถึงแม้ฉั้นจะหลงรักเมืองนี้อย่างจริงจังแต่ที่นี่ก็เงียบสงัดจนได้ยินแค่เสียงนกร้องและลมพัดในช่วงวันหยุด แถมลมหนาวเย็นยังทำให้เหงาจับใจอีกต่างหาก
*เมารี เป็นชนเผ่าดั้งเดิมของนิวซีแลนด์ที่อาศัยอยู่ก่อนที่ประเทศจะตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษตามสนธิสัญญาไวทังกิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น