Pages

วันพุธ, พฤศจิกายน 03, 2553

และแล้ว ฉั้นก็เดินทางมาถึง Sao Paulo, Brazil

และแล้ว ฉั้นก็เดินทางมาถึง Sao Paulo, Brazil ......


ทำไมมันถึงได้ไกลขนาดนี้ เหมือนไม่มีทีท่าว่าจะไปถึง ฉั้นเดินทางจากเมืองไทย ผ่านสิงคโปร์ ต่อเครื่องที่ นิวซีแลนด์ และนั่งเครื่องต่อมายังชิลี จากชีลีต้องต่อเครื่องอีกครั้งเพื่อมา เซา เปาโล การเดินทางทั้งหมด เกือบ 2 วัน รวมช่วงที่ต้องนั่งรอต่อเครื่องแล้ว เหมือนใจจะขาด หมดแรงแล้วหมดแรงอีก ยิ่งก่อนจากเมืองไทยเกิดอาการแพ้อากาศ อยู่บนเครื่องเล่นเอาทรมานจนน้ำตาเล็ด เพราะคัดจมูกน้ำมูกไหล เจ็บคอและหายใจไม่ออก ที่สำคัญ เดินทางมาทวีปอเมริกาใต้ เวลาจะย้อนอดีต นั้นหมายถึง ฉั้นเดินทาง “วันที่ 29” กว่า 35 ชั่วโมงของการเดินทาง ฉั้นไปถึงที่ บราซิล ยังแค่ “วันที่ 30” เท่านั้นเอง!!


ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการเดินทางที่ทรหดที่สุดเท่าที่เคยเดินทางมาในชีวิต เหตุเพราะ จากนิวซีแลนด์ ฉั้นเดินทางกลับเมืองไทย ก่อน ตั้งใจว่าจะกลับไปพักผ่อนให้สบายใจ เริ่มการเดินทางจากนิวซีแลนด์ กว่าจะถึงเมืองไทย จากที่ควรจะถึงภายใน 13 ชั่วโมงครึ่ง แวะพักต่อเครื่องที่สิงคโปร์อีก 9 ชั่วโมง เพราะ Flight ถูก Cancel รวมแล้วจึงใช้เวลากว่า 22 ชั่วโมง ถึงเมืองไทย มาถึงเมืองไทยฉั้นตัดสินใจจัดการเรื่องงานแต่งงานแบบกระทันหัน จากเดิมที่คิดว่าจะไม่จัดงานแล้วเพราะชีวิตช่างวุ่นวายเต็มที แต่เพราะไหนๆก็ไหนๆ คิดว่าอาจจะอีกนานกว่าจะได้กลับมาอีก เมื่อตัดสินใจแล้วทุกอย่างจึงถูกจัดการเสร็จสิ้นภายในอาทิตย์เดียว ทั้งที่เจ้าบ่าวยังตามมาไม่ถึงซะด้วยซ้ำ กำหนดการแต่งงานแบบเล็กๆของเราก็เริ่มขึ้นแบบกระชั้นชิด ทำให้ไม่มีโอกาสได้เชิญใครมากมายเพราะเกรงใจในความกระทันหัน จึงได้แต่โทรเชิญครอบครัวและเพื่อนที่สนิทที่สามารถเชิญแบบปากต่อปากได้ อีกหลายๆคนที่ไม่ได้มีโอกาสเรียนเชิญต้องขออภัยจริงๆ เพราะเกรงใจ บางคนที่เชิญไปแล้วก็ยังไม่สามารถมาได้ก็มี แต่ยังไงงานปาร์ตี้เล็กๆของเราก็ผ่านไปด้วยดี อย่างไม่น่าเชื่อ โดยที่เจ้าบ่าวบินตามมาจากนิวซีแลนด์ก่อนหน้าวันงานแค่ 2 วัน แอบคิดว่า ถ้าเกิดเหตุขัดข้องที่ทำให้เจ้าบ่าวมาไม่ได้ งานนี้ดิฉั้นคงเป็นหม้ายขันหมากแน่นอน แต่สุดท้าย ความสุขก็เกิด..จากการที่ได้เห็นพ่อแม่พี่น้องที่เรารักที่สุดและเพื่อนสนิทของเราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาในวันนั้น ..พร้อมด้วยเจ้าบ่าว!!.. ^^




หลังจากจัดงานแต่งงานเสร็จเรียบร้อยภายในหนึ่งสัปดาห์นั้น ก็ถึงเวลาต้องเริ่มการเดินทางอันแสนหฤโหด นอกจากความเหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงานแต่ง ยังไม่รวมเรื่องกระเป๋าใหญ่ๆแทบปริอีก 6 ใบที่ต้องทั้งหิ้วทั้งแบก และไหนจะงานที่ไม่เคยเสร็จของคุณแฟบที่สร้างความกังวลใจไม่หยุดหย่อน และร่างกายที่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับการเดินทาง แต่ก็ถึงเวลาลากสังขาล จากเมืองไทย หลังร่ำราจากครอบครัว เราเริ่มหายใจลึกๆ แล้วเดินเข้า Gate อย่างเร่งรีบ และกว่า 35 ชั่วโมงของการเดินทางที่ว่าก็เริ่มขึ้น...


Suarnnabhumi Airport, Bangkok - Thailand


จาก 2 ชั่วโมงครึ่ง ขึ้นเครื่องจากเมืองไทยถึงสิงคโปร์ บวก 3 ชั่วโมงในการรอต่อเครื่อง ..จากนั้น 10 ชั่วโมง บนเครื่องจากสิงคโปร์ ถึง นิวซีแลนด์ รอต่อเครื่องอีก 4 ชั่วโมง และจากนั้นอีก 11 ชั่วโมงครึ่ง บนเครื่องจากนิวซืแนด์ ถึง ชิลี จากนั้นรอต่อเครื่องอีก 1 ชั่วโมงครึ่ง และอีก 4 ชั่วโมงบนเครื่อง จากชีลี ถึง เซา เปาโล บราซิล!!! เฮ้อ....น้ำตาแทบเล็ด เล่นเอาหน้าซีดตาโหลกันเลยทีเดียว!!


 Singapore Airport
 Chile Airport




มาถึงแอร์พอร์ต เซา เปาโล พ่อกับแม่(คุณแฟบ) มารอรับตามเคย โชคดีที่ไม่ต้องกระเสือกกระสนหอบหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ๆ 6 ใบทีว่า ไปนอนโรงแรม มี พ่อกับแม่ คอยดูแลอย่างดี ยกห้องตัวเองที่มีเตียงนอนแสนสบายให้นอนจนกว่าจะฟื้นตัวจากอาการ Jet Lag ที่เล่นงานงอมแงม เช้ามามีอาหารเช้า กาแฟ ขนมปัง ต่อด้วยมื้อเที่ยง Homemade แสนอร่อย มื้อเย็นก็ไม่ได้พร่อง เฮ้อ..เสียดายอย่างเดียว ฉั้นพูดกับเค้าไม่รู้เรื่อง ด้วยความจำเป็นที่แฟบต้องเดินทางไป ชิลี ต่ออีก 5 วัน ทิ้งฉั้นอยู่กะพ่อกะแม่ที่บ้าน เลี่ยงไม่ได้ ต้องสื่อสารกันด้วยภาษาโปรตุเกตุวันละคำ ปนกับภาษาอังกฤษแบบ Snakeๆ Fishๆ ที่พ่อกะแม่ไม่ย่อท้อ ถึงเม้จะลำบากลำบนกันทั้งคู่ แต่ก็ไม่ละความพยาม หลังจาก 3 วันผ่านไป เราเริ่มเข้ากันได้ดีเหมือน ปี่กับฉิ่ง เรื่องทำตัวเนียน จริงๆก็ถนัดอยู่ แต่ครั้งนี้ช่างตกที่นั่งลำบาก เพราะอยู่บ้านเค้าแต่พูดกะเค้าไม่รู้เรื่อง อารมณ์ขันที่มีก็ฝืดเต็มที แต่ก็พอทำลายกำแพงหนาๆไปได้บ้าง ทุกมื้ออาหารเราจึงต้องมีเวลานั่งคุยกันวันละนิด และไม่น่าเชื่อว่าเสียงหัวเราะก็เกิดขึ้นได้ ด้วยภาษาที่ต่างกัน ภาษาร่ายกาย มือ ขา เท้า นิ้ว หู ตา จมูก ปาก ฟัน ฯลฯ !!! จึงถูกใช้พร้อมกันจนมึนไปหมด .................ฟิ้วววว....ปาดเหงื่อ งานนี้ช่างเหนื่อยจริงๆ!!


หลังจากหายอาการ Jet Lag ฉั้นก็เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติและเริ่มทำตัวให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่แค่ช่วยแม่ล้างจาน แต่ฉั้นยังเริ่มออกไปตระเวนหาบ้าน (ของตัวเอง) อยู่ด้วย ที่นี่มีบริการของบริษัทที่รับช่วยดูแลคนต่างบ้านต่างเมืองอย่างฉั้นในแทบทุกเรื่อง ทั้งให้ข้อมูลต่างๆ ทั้งช่วยหาบ้าน หาแม่บ้าน พาชมสถานที่ต่างๆหรือ City Tour และอีกมากมายที่เราจะขอความช่วยเหลือและเรียกใช้บริการ โดยทุกอย่างจะคิดราคาเป็น Package ..วันนี้ฉั้นได้ไปตะลอนทัวร์เพื่อดูสถานที่ที่จะพักอาศัย เราเลือกใกล้ที่ทำงานของคุณแฟบ ซึ่งก็อยู่ในแหล่ง Business Area หน่อย บราซิลช่างเหมือนเมืองไทย!! เซา เปาโลถึงแม้ไม่ใช่เมืองหลวงแต่ก็เทียบเท่ากรุงเทพบ้านเรา ที่นี่มีโซนคนรวยคนจน มีโซนอันตรายและปลอดภัย มีแหล่งที่ผู้หญิงไม่ควรเดินคนเดียว มีห้างสรรพสินค้า โรงหนัง ร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และสินค้า Brand Name มากมาย ร่วมทั้งมีจิตรกรรมฝาผนังตามท้องถนนเกลื่อนกลาดไปหมด เหมือนบ้านเรา แต่ที่น่าสนใจ ก็คือ ประเทศนี้อยู่โซนอเมริกาใต้แท้ๆ แต่หาคนพูดภาษาอังกฤษได้ ยากจริงๆแฮะ คนบ้านเรายังพูดภาษาอังกฤษกันเก่งกว่าซะอีก ขนาดคนขับแท็กซี่ยังพูดภาษาอังกฤษได้เลยอ่ะ!!!! ........ ^^
ตู้โทรศัพท์

1 ความคิดเห็น:

  1. Anonymous27/7/55 01:38

    ชอบอ่านมากค่ะ จะติดตามนะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่า :)

    ตอบลบ

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...