Pages

วันพุธ, พฤศจิกายน 03, 2553

Welcome to Brazil

“Welcome to Brazil” กลายเป็นคำพูดติดปากไปแล้ว เวลาที่เห็นอะไรแปลกๆที่ไม่เคยเห็น

อาทิตย์แรกของการมาเยือน เซา เปาโล ครั้งนี้ สถานที่เที่ยวที่แรก คือ ร้านขายหลอดไฟ!! เพราะพ่อแม่ต้องไปซื้อหลอดไฟใหม่ไปเปลี่ยนในบ้าน ..ดีกว่าทิ้งฉั้นให้อยู่บ้านคนเดียว ก็เลยกระเตงไปด้วย.. ที่นี่มีร้านขายเฉพาะหลอดไฟโดยเฉพาะ ที่ขนาดร้านใหญ่ประมาณ ห้าง Home Pro 1 ชั้น ที่เต็มไปด้วยหลอดไฟ โคมไฟ ทุกรูปแบบ มันมีทุกรูปแบบจริงๆเพราะมีตั้งหลอดไฟดวงเล็กๆ หลอดนีออน โคมไฟธรรมดาไปจนถึงไฟระย้า Chandelier อลังกาลแบบที่ติดในโรงแรมหรู ที่แปลกไม่ใช่หลอดไฟ! แต่ที่แปลก คือ ทำไมคนมาซื้อหลอดไฟ แม้จะหน้าตาเป็นแม่บ้านธรรมดาๆ แต่มาช้อปปิ้งหลอดไฟกองเพนิน จนนึกว่าเป็นช่างไฟ! รวมทั้งพ่อกะแม่ด้วย เหตุเพราะที่นี่ไม่ว่า บ้านหรืออพาร์ตเม้นต์หรือคอนโดหรูที่เพิ่งสร้างเสร็จ ใหม่เอี่ยม ช่างจะทิ้งรูโบ๋สำหรับติดหลอดไฟไว้ให้ พร้อมกับสายไฟที่เดินไว้ให้เรียบร้อย(แบบไม่เรียบร้อย)รอดมาจากรู แบบที่บ้านเราเรียกว่า “สร้างไม่เสร็จ”นั้นล่ะ แต่ที่นี่คือ “สร้างเสร็จแล้ว” ใครจะอยู่ก็ไปเลือกสรรหาหลอดไฟแบบที่ชอบมาติดเอาเอง!! -_-; อืมม..แปลกดี

“Welcome to Brazil”!



 มาที่นี่ต้องศึกษาบ้านเมืองให้ดี หรือไม่ก็ต้องมีคนท้องถิ่นที่รู้จักคอยช่วยเหลือ ย่านที่พักอาศัย ที่ว่ามีโซนคนรวยคนจน ถึงแม้จะสังเกตุเห็นได้ชัดว่ามันคือโซนไหนอย่างไร แต่จะให้ดีก็ต้องมีผู้รูคอยแนะนำ เช่น ย่าน Villa Nova (วิลล่า นอว่า) คือย่านที่คนรวยอยู่, Moema (โมเอม่า) คนรวยอยู่เหมือนกันแต่ระดับรองลงมาหน่อยหรือผู้คนจะเดินเชิดหน้าน้อยกว่า..มีร้านอาหาร เบอเกอรี่ ร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตมากมาย แต่ใกล้ Domestic Airport เสียงเครื่องบินอาจดังรบกวน, Higienopolis (อีเจียนโนโปลิส) คือ ย่านที่พ่อกะแม่ และฉั้นกะแฟบมาอาศัยเค้าอยู่ตอนนี้ ก็จัดว่าไฮโซ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนสูงวัยกับครอบครัว เป็นแหล่ง Community ของชาวยิวที่มาตั้งหลักปักฐานที่นี่ตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นู่นนน ใกล้แหล่งในเมือง(Downtown) และ ถนน เปาลิสต้า (Paulista Ave.) ซึ่งเป็นย่านธุรกิจใหญ่ย่านหนึ่ง แต่ก็ห่างไกลจากย่านธุรกิจอื่นๆเช่น Brooklin, Jardins ซึ่งแหล่งนั้นจะใกล้กับ Vila Nova, Moema และอีกหลายย่าน เช่น Campo Belo (แคมโพ เบโล่), Vila Olimpia (วิลล่า โอลิมเปีย), Panambi (พานัมบี), Morumbi (โมรุมบี) ฯลฯ มากกว่า


การหาที่อยู่อาศัยที่นี่ยากมากทีจะไปเดินตระเวนหาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะนอกจากผู้คนไม่พูดภาษาอังกฤษแล้ว การเดินหาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า อาจเจอบ้านสวย คอนโดดูดี แต่เยื้องไปอีกฝั่งถนน กลายเป็นสลัมแ หล่งใหญ่ก็มี ซึ่งหากไม่รู้จริงอาจได้ทำเลที่เสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมและอาจไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพราะที่นี่ย่านคนรวยคนจนถึงแม้จะดูรู้ได้จากสภาพแวดล้อมภายนอก แต่มันอยู่ใกล้กัน เรียกว่าอยู่เรียงสลับกันเลยก็ว่าได้ บ้านเกือบทุกหลัง คอนโดเกือบทุกที่ จึงต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ ประตูไฮโดรลิค 2 ชั้น ควบคุมดูแลโดย Security Guard ตลอด 24 ชั่วโมง ประตูชั้นแรกเปิดสำหรับทางเข้า และชั้นสองเพื่อเข้าสู่อาคาร และลานจอดรถ (ต่างหาก) โดยการทำงาน คือ เข้าสู่ทางเข้าชั้นแรกจะทุกล็อกแป๊บนึงเพื่อรอเปิดประตูชั้นสองเพื่อเข้าตึก หลังจากเข้าอาคารหรือเข้าลานจอดรถแล้ว หากเป็นคอนโด ลิฟท์จะส่งตรงถึงหน้าห้องใครห้องมัน ไม่ยุ่งเกี่ยวใคร ไม่มีทางให้เดินเล่นในแต่ละชั้น!! Security Guard ที่นี่ก็ไม่ใช่ “ยาม” ธรรมดาอย่างบ้านเรา ที่บางทีก็ “ยามหลับ” บางทีก็ “ยามตื่น”! ตัวผอม ยิ้มอ่อนหวานและน้อมน้อม...แบบนั้น ไม่มี! แต่ผู้รักษาความปลอดภัยจริงๆ ไม่ปล่อยให้ใครแปลกหน้าเข้าออกได้ง่ายๆ และหากไม่ปลอดภัยด้านนอก พวกนี้ตายก่อน!! ไม่ได้ขู่ให้กลัว..มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

คนท้องถิ่นที่นี่บอกว่า “ที่นี่ไม่ได้อันตรายเกินไป..ถ้ารู้จักอยู่” คือ อยู่ในที่ที่ปลอดภัย มีรถส่วนตัวใช้ (รถที่นี่ติดมากไม่แพ้บ้านเรา) ไม่ใส่ของมีค่าล่อตาล่อใจ ข้ามถนนต้องรอให้รถไปก่อน (อย่ารอจนรถหยุด เพราะจะไม่ได้ข้าม) ขับรถก็ให้ล็อคให้ดี ปิดกระจกและวางกระเป๋าแบบหลบๆอย่าล่อตาใคร เห็นมอเตอร์ไซต์ สิบล้อ ก็ต้องให้ทาง (เพราะไม่งั้นชนกันแน่นอน) และพยามไม่เดินไปไหนมาไหนคนเดียวโดยเฉพาะในยามค่ำคืน และหลีกเลี่ยงที่พักอาศัยใกล้แหล่งสลัม แหม่...ฟังแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นเย้อะ

บ้านในสลัมที่นี่จะปลูกสร้างด้วยอิฐแบบไม่ทาสี เป็นบ้านทรงเหลี่ยมหลังเล็กๆ ไสตล์เหมือนสร้างไม่เสร็จ เรียงสูงขึ้นไปแบบหลังต่อหลังตามแนวเขา มุงหลังคาด้วยเศษไม้บ้าง อิฐบ้าง สะเปะสะปะ ..เวิ้งสลัมจึงมองเห็นเหมือนกล่องสีอิฐเรียงต่อๆกันขึ้นไป เวิ้งเล็กบ้างใหญ่บ้าง..แล้วแต่ แค่เห็นก็รู้สึกกลัว..ไม่รู้ทำไม อาจเพราะได้ยินมาว่าคนในย่านสลัมนั้น นอกจากติดยา การฆ่าแกงกัน ปล้นกัน ลักพาตัว เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ แล้ว หากเป็นผู้คนที่มาจากทางเหนือของบราซิลเค้ายิ่งว่าจิตใจโหดเหี้ยม .. จริงรึป่าว เชิญมาพิสูจน์เองได้ตามสบาย!!! เมื่อปีก่อน(ปี 2009) ครั้งที่เรามาเที่ยวที่นี่ กลางดึกของคืนนึงยังมีการแทงกันตายหน้าร้านเบอเกอรี่ใกล้ๆบ้าน แค่เพราะ Security Guard ของอพาร์ตเม้นติดกับร้านเบอเกอรี่ ไม่ให้ผู้หญิงแปลกหน้าคนนึงที่ไม่ใช่ผู้อาศัยเข้าตึก แต่อาจพูดอะไรที่ไม่ถูกหู วันถัดมาพี่ชายเจ้าหล่อน (ซึ่งเป็นคนทางเหนือ) เลยมาจัดการให้ ด้วยการแทงซะหลายแผล ตายคาที่ลงข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ!! แถมเมื่ออาทิตย์ก่อน ยังมีการปล้นกันอย่างอุกอาจในคอนโดย่านไฮโซ Higienopolis ใกล้ๆบ้านเรานี่เอง!! ใน Guide Book ที่ฉั้นได้มา จึงมีข้อแนะนำที่ระบุชัดเจนว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้ปลอดภัยจากการเป็น “The Victim of Crime”!!!

เพราะทั้งหมดที่เล่ามา จึงมีบริษัทรับดูแลคนต่างชาติ หรือ International Newcomers ในการช่วยหาแหล่งที่อยู่อาศัย พาชมแหล่งที่อยู่อาศัยก่อนตัดสินใจเลือกโซน ให้คำแนะนำและข้อมูลที่สำคัญๆมากมาย พาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยว และหาบ้านหรือคอนโดให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า ช่วยหา Maid ช่วยเรื่องการติดตั้งโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ทและอีกมากมาย ฉั้นจึงกลายเป็นลูกค้าของบริษัทที่ชื่อ BR Expat Destination Services ( www.expat.combr ) ซึ่งดำเนินธุรกิจแบบ Enterprise to Enterprise คือ ทำสัญญาระหว่าง BR Expat กับบริษัทที่แฟบทำงานอยู่ เพื่อช่วยเหลือเรา

หลังจากตกลงใช้บริการ เราก็เริ่มจากการไปสำรวจแหล่งที่อยู่อาศัยก่อน บริษัทที่ว่าจะจัดหารถมารับ นั่งคุยกันทำความรู้จักกันซักพักและก็จะพาไปตระเวนชมบริเวณโดยรอบของแต่ละย่านที่พักอาศัย หลังจากตระเวนดูย่านต่างๆแล้ว เลยคิดหนักว่าฉั้นจะตัดสินใจเลือกอยู่ในโซน Villa Nova ที่เค้าว่าโซนคนรวยโฮโซนั่นดี หรือ จะอยู่ Higienopolis ย่านคนแก่ไฮโซ อันไหนดีกว่ากัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!! ^o^

2 ความคิดเห็น:

  1. Villa Nova เลยซิเทอ. เพราะยามยังไม่ตาย

    ตอบลบ
  2. อยากอยู่ แต่แพงโคตะระอ่ะ ห้องก็เก๊าเก่า..ราคาเช่าเป็นแสน(บาท)เลยอ่ะ!!

    ตอบลบ

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...