Pages

วันศุกร์, พฤษภาคม 27, 2554

วิธีรักษาความสัมพันธ์

เมื่อหลายวันก่อนได้ไปเจอคลิปที่น่าสนใจอันหนึ่ง (แต่หลายตอน) เกี่ยวกับการรักษาความสัมพันธ์ เป็นคลิปของคุณ Donna Barnes เธอเป็น Life and Relationship Coach ของบริษัทของเธอเอง ชื่อ NY Dating Coach, New York City, USA พูดอย่างนี้ อาจนึกว่าเคยรู้จักเธอมาก่อน ป่าวหรอก แค่บังเอิญไป search เจอ เห็นน่าสนใจดีตามประสาคนใช้ชีวิตคู่ ก็อยากจะลองเช็คดูว่าเราทำดีพอแล้วรึยังหรือมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกบ้างในการรักษาชีวิตคู่ให้มั่นคงยืนยาว พอเจอคลิปนี้แล้วฟังไปฟังมา รู้สึกว่ามีประโยชน์ดี เลยเอามาเล่าสู่กันฟังดีกว่า เผื่อว่าอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับบางคนที่บังเอิญอยากได้ Tips&Techniques  ดีๆ ในการรักษาความสัมพันธ์ของตัวเอง ลองอ่านดูนะ เผื่อจะชอบเหมือนกัน

เริ่มจาก Tips&Tricks สำหรับสิ่งที่คุณผู้หญิงอย่างเราควรทำก่อน;

  1. Maintain Yourself: 'ผู้ชายมักหลงรักผู้หญิงที่หลงรักตัวเอง' เคยได้ยินมั้ย ประโยคนี้? คุณ Barnes บอกว่า 'หลงรัก' ในที่นี้หมายถึง รักในความงามของตัวเอง รักในความคิดของตัวเอง รักการดูแลตัวเอง รักความเป็นอิสระของตัวเอง รักการได้อยู่กับเพื่อนๆบ้าง ครอบครัวบ้าง มีความสุขกับตัวเอง และเป็นตัวของคุณเองในแบบที่เค้าหลงรักคุณในวันแรก ซึ่งนั่นจะทำให้เค้ามีชีวิตชีวาขึ้น แต่ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ได้ใจเค้ามาครองนะเพราะนั่นอาจจะไม่ใช่ตัวคุณจริงๆและคุณอาจจะไม่มีความสุขก็ได้ แต่หากจำเป็นต้องเปลี่ยน ควรเปลี่ยนจากข้อเสียบางอย่างที่บั่นทอนความสำพันธ์ของเราจะดีกว่า เพราะเปลี่ยนแบบนี้จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ามาก และควรทำความเข้าใจด้วยว่า "หลงรักตัวเอง" ไม่ใช่ "หลงตัวเอง" ผู้หญิงที่ 'หลงรักตัวเอง' - จะมีความสุขกับการได้อยู่กับตัวเองและมีความสุขที่ได้ทำให้คนอยู่ใกล้ๆมีความสุขไปด้วย แต่คน 'หลงตัวเอง' - จะมีความสุขกับการได้อยู่กับตัวเองโดยไม่เคยสัมผัสได้เลยว่าคนที่อยู่ใกล้ๆเธอมีความสุขไปด้วยหรือไม่ 
  2. Maintain Respect:  ทุกคนต่างต้องการพื้นที่ส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น ในช่วงที่ความสัมพันธ์เพิ่งเริ่มต้น การไม่พยามอยากรู้ในสิ่งที่สร้างความลำบากใจในการตอบนั้นถือเป็นการให้เกียรติอีกฝ่าย และการบอกในสิ่งที่ควรเท่านั้น ก็ถือเป็นการสร้าง "ความน่าดึงดูดใจ" ได้อีกทางด้วย การรักษาระยะให้เหมาะสมและเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของกันและกันถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับความสัมพันธ์ เพราะนอกจากจะไม่สร้างความอึดอัดใจให้แก่กันและกันแล้ว และสำหรับผู้หญิงอย่างเรา ยังทำให้ดูน่าสนใจอีกต่างหาก
  3. Control Behavior: อย่าระบายความโกรธ ความเครียด ความหงุดหงิด ในรูปแบบของคำพูดรุนแรง หรือตะโกนใส่หน้าเค้า หรือพูดจาไม่สุภาพใส่เค้า หรือแม้กระทั่งอาจประชดประชันให้เจ็บช้ำน้ำใจ คุณ Barnes จึงบอกว่าควรควบคุมกิริยามารยาทและวาจาเป็นสิ่งสำคัญ อย่าถือสิทธิ์ของความสัมพันธ์ในการทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ 
  4. Maintain Attraction: ผู้ชายจะใช้เวลาในการครุ่นคิดจนเกิดความรู้สึกชอบพอนานกว่าผู้หญิง หากถามว่านานขนาดไหน คุณ Barnes บอกว่าต้องออกเดทกันประมาณสิบครั้งอ่ะ ถึงจะรู้สึกชัดเจนว่าชอบหรือไม่ชอบในตัวผู้หญิงคนนั้น อืมม..นานเน๊อะ แต่อาจไม่ทุกกรณี! แต่มิน่า ถึงสร้างความอึดอัดให้ผู้หญิงใจร้อนหลายๆคนที่ต้องการรู้ตั้งแต่เดทแรกว่า "เค้าชอบฉั้นรึป่าว?" แล้วครุ่นคิดว่า "ทำไมเค้าไม่โทรมาหา?" "เค้าคิดกับฉั้นยังไงกันแน่?" จนท้ายที่สุดเก็บอาการไว้ไม่อยู่และต้องเป็นฝ่ายตามล่าซะเอง ธรรมชาติของคนเรามักไม่ต้องการถูกล่า โดยเฉพาะผู้ชายที่มีธรรมชาติของความอยากเป็นผู้นำ จึงต้องการเวลาในการครุ่นคิดเพื่อให้แน่ใจว่า เค้าต้องการควบคุมสถานการณ์นี้หรือไม่ แต่เมื่อไรที่พวกเค้ารู้สึกว่าตกเป็นฝ่ายถูกไล่ล่า เค้าจะเลือกเป็นฝ่ายจบความสัมพันธ์ลงซะเอง เพราะรู้สึกว่าเธอไม่น่าดึงดูดใจซะแล้ว ซึ่งก็น่าเสียดาย ดังนั้น การทำตัวให้น่าดึงดูดใจ คือ ต้องใจเย็นๆหายใจเค้าลึกๆแล้วเปิดโอกาสให้เค้าเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ไปก่อน หากเค้าชอบเรา เค้าจะใช้เวลาคิดเล็กน้อย และหากเราน่าสนใจพอ สัญญาณที่บอกว่าเค้าหลงรักเราเข้าแล้ว ก็คือ การพยามทำความรู้จักเรา โทรมาหา นัดเจอล่วงหน้า อยากคุยด้วย พยายามวนเวียนอยู่ใกล้ๆ โต้ตอบบทสนทนากับเราตลอด ยิ้มให้ทุกครั้งที่สบตากัน พยายามทำให้เรายิ้มหรือหัวเราะด้วยเพราะเค้าหลงรักรอยยิ้มของเราเช่นกัน และหากความสัมพันธ์เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือเค้าจะอยากให้เรารู้จักเพื่อนๆของเค้า ครอบครัวเค้า คิดถึงและโทรหาเป็นเวลา ใส่ใจกับ 'เวลา' เป็นพิเศษเวลาที่มีนัดกัน อยากกุมมือ และสุดท้ายจะอยากมีเราอยู่ข้างกายไม่ยอมห่าง แค่ให้เวลาเค้าคิดซักนิด...คงไม่ยากเกินไป อย่าเร่งรีบในความสัมพันธ์ เพราะถึงท้ายที่สุดถ้าเค้าไม่ชอบเรา ก็แค่ ลืมเค้าซะ แล้วไปต่อ ไปรู้จักคนใหม่ๆต่อไป..ไม่ต้องเป็นฝ่ายตามล่าเค้ามาให้เหนื่อย 
  5. Be Friend: รับฟังเค้าแบบเพื่อน แม้ความสัมพันธ์จะคืบหน้าไปเป็นคนรักแล้ว เราก็ยังต้องทำตัวให้เหมือนเพื่อนได้ในบางขณะ โดยเฉพาะเวลาที่เค้ามีปัญหาอยากเล่าให้เราฟัง ก็แค่ทำตัวสบายๆ ผ่อนคลายแล้วก็เปิดหู เปิดใจรับฟัง ...ง่ายจะตายไป!! เพราะถ้าเราไม่ฟัง เค้าก็ไปเล่าให้คนอื่นฟังแทน!
  6. Give Compliments and Support: ผู้ชายจะยิ่งภูมิใจในตัวเอง มั่นใจในตัวเอง เมื่อเค้าได้รับคำชม คำเยินยอ และได้รับการ Support ทางความคิด จากผู้หญิงที่เค้ารัก การชื่นชมเค้า ภูมิใจในตัวเค้า เค้าก็จะยิ่งภูมิใจ และมั่นใจในตัวเอง และจะเผื่อแผ่มาถึงเราในรูปแบบของความรัก การดูแลเอาใจใส่ การทะนุถนอม และเค้าจะมีเรี่ยวแรงมหาศาลที่จะมอบเวลาทั้งหมดให้กับเราและทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเรา อย่ามัวแต่บ่น หรือ ไม่พอใจนู้นนี่รอบตัวไปหมดเพราะนอกจากบั่นทอนตัวเองแล้วยังสร้างบรรยากาศตึงเครียดให้คนที่อยู่ข้างตัวอีกต่างหาก  
  7. Let the Man be the Man: หลังจากได้คำชื่นชม เยินยอ ก็ต้องปล่อยให้เค้าได้ทำตัวสมความเป็นชายหน่อย ซึ่งก็คือ ปล่อยให้เค้าได้เป็นฝ่ายจีบ เป็นฝ่ายโทรหา เป็นฝ่ายค้นหา ได้เป็นคนวางแผน ได้เป็นผู้นำ ได้ควบคุมสถานการณ์บ้าง สำหรับผู้หญิงอย่างเรา ก็แค่ทำตัวเป็นผู้หญิง  แต่งตัวให้เป็นผู้หญิง ทำตัวให้น่ารักน่าทะนุถนอม แล้วรอให้เค้าโทรมา พาไปเที่ยว วางแผนเดินทาง หาร้านอาหาร ทำตัวน่ารักด้วยการรับฟัง เออ ออ ห่อหมก แต่อย่าลืมล่ะ เราก็มีความคิดของเรา ดังนั้น แสดงความคิดเห็นบ้างเพื่อแสดงว่าเราเคารพตัวเองแค่ไหน เสนอความคิดเห็นบ้าง แต่ไม่ใช่ขัดคอนะ แล้วก็อย่าไปแข่งขันกับเค้า ให้เค้าได้มีความมั่นใจและภูมิใจต่อไปเพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงการ support ทางความคิดเค้าได้เป็นอย่างดี ให้เค้าเป็น "หัว" ไปเถอะ เพราะเราจะต้องเป็น "คอ" หัวขาดคอได้ที่ไหนกัน ใช่มั้ย สาวๆ ^^ 
  8. Love Him, Love His Friends: เคล็ดลับข้อนี้ คือ ให้เวลาเค้าได้อยู่กับเพื่อนบ้าง หรือหากเค้าต้องการให้คุณรู้จักเพื่อนเค้า ก็เปิดใจให้รู้สึกชอบเพื่อนเค้าด้วย อย่าอคติ และ อย่าพยามหวงเวลาของการได้อยู่ด้วยกันโดยไม่แบ่งปันให้เพื่อนฝูงหรือแม้แต่ครอบครัวของเค้าบ้าง ไม่งั้นล่ะก็ เค้าเบื่อแย่ การให้เวลาเค้าได้อยู่กับเพื่อนบ้าง ถือเป็นการ ให้โอกาสเค้าได้รู้ใจตัวเอง ว่าจริงๆแล้วเค้าอยากอยู่กับเรามากกว่าต่างหากล่ะ แล้วถ้าสามารถชอบเพื่อนเค้าได้ (เอ่อ..หมายถึง เป็นมิตรกันได้อ่ะนะ) ก็จะยิ่งดีใหญ่ เพราะจะได้ไปไหนด้วยกันได้โดยไม่อึดอัด เป็นการเพิ่มเสน่ห์อย่างหนึ่ง
  9. Don't Forget Sense of Humor: อันนี้ขอเติมเอง คุณ Barnes ไม่ได้บอก แค่รู้สึกว่าใครๆก็อยากอยู่ใกล้คนยิ้มง่าย หัวเราะง่าย ถึงแม้คุยสนุกหรือมีอารมณ์ขันด้วยอาจจะทำยากเพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ แต่อย่างน้อยเวลาที่ใครพูดอะไรขำๆก็อย่าลืมหัวเราะบ้าง ยิ้มบ้าง พอให้ดูเป็นคนอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี แค่นี้ไม่ใช่แค่เค้าเท่านั้นหรอกที่อยากอยู่ใกล้...ใครๆก็อยากจะอยู่ใกล้ๆคนอารมณ์ดีกันทั้งนั้น
ฮืมมม...ยังมีวิธีรักษาความสัมพันธ์สำหรับผู้ชายในโพสต์ถัดไปนะ ลองอ่านดูก่อนแล้วค่อยตัดสินว่าภาระใครหนักกว่ากัน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...