Pages

วันศุกร์, ธันวาคม 03, 2553

หาบ้านอยู่ใน เซา เปาโล, บราซิล

ไม่น่าเชื่อว่าการหาที่อยู่ในเซาเปาโล จะยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้ นี้ขนาดมี Agency คอยช่วยเหลือยังรู้สึกว่ายากแสนยาก ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีอพาร์ตเม้นท์ดีๆให้เลือก แต่เป็นเพราะเหตุผลร้อยแปดพันเก้า เช่นเรื่องห้องเล็กไป ตึกใหญ่ไป หรือห้องใหญ่ไป ตึกเก่าไป หรือไม่ก็ อยู่ไกลไป แพงเกินไป และอีกต่างๆนานา ซึ่งจนแล้วจนรอด ดูไปประมาณกว่า 23 คอนโด และไม่ถูกใจซักห้อง มันเป็นไปได้ยังไงที่ไม่มีคอนโดไหนใน 23 ห้องนั้นถูกใจตามความต้องการ ไม่ใช่เพราะเราเรื่องมากเกินไปแน่นอน ฉั้นมั่นใจว่ามันต้องมีเหตุผลบางอย่าง เกิดขึ้นด้วยความจงใจ!!

ตั้งแต่เราเดินทางมาถึง เซา เปาโล ข้าวของเครื่องใช้ที่ขนมาด้วย ยังคงอยู่ในเรือ ค่อยๆลอยตามมา ผ่านทีละมหาสมุทรไปเรื่อยๆ แต่เรายังมีเวลารอได้ เพราะเรายังไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเอง ระหว่างที่พักอาศัยอยู่กับ พ่อกะแม่คุณแฟบ ฉั้นก็เริ่มออกตระเวนหาที่อยู่ โดยมีบริษัท BR Expat เป็นตัวแทนพาตระเวนดูย่านที่พักอาศัยดีๆใกล้แหล่งธุรกิจ เพื่อดูว่าที่ไหนที่เราจะอยากอยู่ และให้คำแนะนำ เช่น ย่าน Villa Nova (วิลล่า นอว่า), Moema (โมเอม่า), Itaim(อิตาอิง) ที่เป็นย่านธุรกิจ และใกล้ที่ทำงานคุณแฟบ สะดวกและไม่มีขโมยขโจนชุกชุม เราจึงเลือกที่จะเริ่มตระเวนหาในแหล่งเหล่านี้ก่อน

เราเริ่มวันแรกด้วยการตระเวนดู 5 อพาร์ทเม้นภายใน 1 วัน ฉั้นมีความหวังเต็มเปี่ยม ว่ายังไงต้องชอบซักที่ล่ะ แอบกังวลด้วยซ้ำว่าถ้าได้ที่อยู่เร็ว ต้องรออีกนานเท่าไรกว่าข้าวของเครื่องใช้จะเดินทางมาถึง! เราตั้งใจจะดูคอนโดที่ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ หรือ Fully Furnished เพราะเราไม่มีเฟอร์นิเจอร์ เรามาแต่ตัวและของแต่งบ้านเล็กๆน้อยๆ ตัวแทนของ BR Expat มีหน้าที่มารับฉั้นที่บ้านและติดต่อ Realtors หรือนายหน้าอีกทีเพื่อให้พาเข้าไปดูห้อง เริ่มต้นที่แรกจึงเป็นคอนโดแบบ กึ่ง Fully Furnished ตั้งอยู่บน ถนน Rocio - Villa Olympia ตึกใหญ่โต โอ่โถง 3 หลัง ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ตรงกลางมีสวนดอกไม้สวยงามตั้งประดับอยู่ อากาศดีๆลมพัดเย็นๆ ลงมานั่งเล่นบริเวณนี้คงดีไม่น้อย เราเดินผ่านเข้าประตูคอนโด ไฮโดรลิค 2 ชั้น ที่ควบคุมโดย Security Guard 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกคอนโด เดินตรงไปยังตึกในสุด ขึ้นลิฟท์ปุ๊ป ลิฟท์ก็ไปจอดหน้าประตูห้องปั๊บ เปิดประตูเข้าไปก็เจอห้องรับแขกเล็กๆ ห้องครัวเล็กๆ ห้องนอนเล็กๆ 3 ห้อง ฉั้นเกือบจะประทับใจ แต่....ดูจากขนาดห้องแล้วออกจะไม่เหมาะสมกับตึกหลังเบ้อเริ่มเทิ่ม เฟอร์นิเจอร์ก็แสนจะธรรมดาและไม่เค้าชุดกัน โต๊ะสีนึง โซฟาอีกสีนึง ระเบียงที่ขึงรอบไว้ด้วยตะข่ายกึ่งลูกกรง จริงๆแล้วโดยรวม เมื่อเดินดูจนรอบๆ ทั้งห้อง Fitness ซาวน่า และสระว่ายน้ำ ต่างก็ดูดีใช้ได้ แต่เมื่อยังไม่ถึงเวลาตัดสินใจ เราจึงเดินทางต่อไปยังคอนโดถัดไปย่าน Moema หลังนี้สวยน้อยกว่าหลังที่แล้วหน่อย และดูเก่ากว่า คอนโดแบบ Duplex มี 2 ชั้น ห้องรับแขกขนาดใหญ่โตโอ่โถง ห้องครัวก็ใหญ่แต่ดูเก่าๆ พิลึก เดินขึ้นชั้นสอง เริ่มดูน่ากลัว ตกแต่งข้าวของเครื่องใช้ เช่น อ่างน้ำ ก๊อกน้ำ ประตู หัวเตียง สไตล์เก่าๆ ดูเชยๆ ในอาคารเดียวกันมีอีกห้องที่เราแวะไปดู ซึ่งก็ไม่ต้องบรรยายมาก เพราะทั้งเก่าและชำรุดทรุดโทรมไปบ้าง ราคาพอๆกัน ถึงแม้เจ้าของบอกว่าจะซ่อมแซมทุกสิ่งทุกอย่างให้ แต่ฉั้นก็ยังไม่ประทับใจ เราจึงยังคงตระเวนหากันต่อไป




















หลังจากที่ฉั้นยังไม่ตกลงปลงใจกับ 5 คอนโดในวันแรก วันที่สองของการตระเวนจึงเกิดขึ้นพร้อมกับอีก 5 คอนโด เหมือนเดิม..เริ่มจาก Villa Nova ไป Moema และเลยไป Itaim คอนโด เก่าบ้าง ใหม่บ้าง แพงบ้าง แพงเกินไปบ้าง(แต่ “ถูกบ้าง” นี่ไม่มีนะ) ตกแต่งบ้าง ไม่ตกแต่งบ้าง แต่มันก็ยังไม่ถูกใจ เพราะถ้าเก่า ก็เข้าขั้นเก่ามากและชำรุดทรุดโทรม ถ้าใหม่ก็ใหม่และแพงมากๆ ส่วนถ้าตกแต่ง ก็มีทั้งตกแต่งแบบน่าเกลียดบ้างหรือไม่ก็ตกแต่งดีแต่แพงเกินไปบ้าง ณ จุดนี้ ฉั้นเริ่มสับสน ...ไม่ใช่เลือกไม่ถูก... แต่ความรู้สึที่ขัดแย้งในหัวตัวเองมันบอกว่า เซา เปาโล ไม่น่าจะไม่มีคอนโดที่พอเหมาะพอดีให้ดู และคำตอบที่ได้รับจากบริษัท BR Expat คือ ที่นี่เมืองใหญ่ หากไม่เจาะและเสาะหาในย่านใดย่านหนึ่ง เราก็จะไม่พบสิ่งที่ดีที่สุด บวกกับข้อแม้นึงของการหาที่อยู่ที่นี่ก็คือ ต้องดูดีๆ เพราะไม่แน่บางทีคอนโดดีๆอาจอยู่ใกล้แหล่งสลัมโดยที่เราไม่รู้ ซึ่งเรื่องความปลอดภัยสำหรับการอาศัยอยู่เมืองนี้ ต้องมาเป็นอันดับต้นๆด้วย แต่ยังไง ฉั้นก็ยังค่อนข้างงง เพราะหลังจากผ่านไป 3 วัน 15 คอนโด สิ่งที่ดีที่สุด ก็ยังไม่ถูกค้นพบ และเรากลับเริ่มต้องขยายพื้นที่ในการตระเวนหาไปในย่านอื่นๆ เช่น Panamby, Alto da Boa Vista และ Campo Belo ซึ่งไกลออกไปจากย่านธุรกิจเล็กน้อยและเป็นโซนไม่ค่อยคุ้นเคย

อาการต๊อแต๊ เริ่มเกิด!!! ฉั้นเริ่มเหนื่อยกับการตระเวนดู เราจึงเริ่มขบวนการ “หาเองโดยไม่พึ่งพาใคร” โดยมีคุณพ่อคุณแฟบผู้แสนใจดีเป็นแรงผลักดัน ชายสูงวัยอายุ 70 กว่าๆเดินท่อมๆสอบถามหาคอนโดให้เช่าในย่าน Higienopolis (ที่ที่เรามาอาศัยบ้านพ่อกะแม่อยู่นั่นเอง ย่านนี้จริงๆแล้วถือเป็นโซนพักอาศัยที่ดีที่สุดย่านนึงเลยทีเดียว เป็นแหล่งคอมมิวนิตี้ของชาวยิว ที่มาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยสงครามโลกนู้น ถือเป็นย่านที่ปลอดภัยและมีระดับ มีร้านอาหารดีๆหลายแห่ง มีห้างหรูตั้งอยู่ และมีร้านเบอร์เกอรี่แสนอร่อยใกล้บ้าน พ่อจึงอยากให้เราพักอยู่แถวนี้ด้วยกัน ถึงแม้มันจะไกลจากที่ทำงานคุณแฟบโขอยู่) พ่อเดินถามไปเรื่อยๆ ทีละหลัง ทีละหลัง จนเจอคอนโดเล็กๆหลังนึง มีห้องว่างราคาไม่แพงมาก(ถ้าเทียบกับที่อื่นๆที่ดูมา) ด้วยความท้อแท้และเกือบหมดแรง เราจึงตัดสินใจว่า เราจะอยู่ที่นี่ล่ะ คุณแฟบอาจต้องยอมขับรถฟันฝ่ารถติดวันละชั่วโมง ในทั้งขาไปและขากลับทุกวัน เราตัดสินใจแจ้งกับบริษัท BR Expat ว่าเราจะขอตระเวนดูกับเค้าอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย หากเรายังตัดสินใจไม่ได้ เราจะเลือกอยู่ที่คอนโดย่าน Higienopolis

ทันทีทันใด เราก็ได้ตัวเลือกโผล่มาอีก 5 คอนโดอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะกระเถิบออกไปในโซนไกลนิดนึงจากโซนเดิมที่เราตั้งใจ แต่คราวนี้ ดูเหมือนทั้งราคาค่าเช่า ขนาด และหน้าตาคอนโดดูไม่เลวและสมเหตุสมผลขึ้นมากทีเดียว เรื่องแปลกที่สังเกตุได้อย่างนึงก็คือ พอเรามีทางเลือกอื่นขึ้นมา เค้ากลับสามารถควานหาตัวเลือกดีๆมาให้เราได้อยู่เหมือนกัน แต่ทำไม..มันไม่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกๆ!! และในที่สุด ก็ถึงเวลาอันควรที่จะต้องตัดสินใจ ถึงแม้วันที่สี่ของการตระเวนหา เราจะได้ตัวเลือกที่ถูกใจขึ้นแต่ก็ยังคงมีอะไรบางอย่างชวนให้ลังเล และสุดท้ายเราก็จำต้องตัดสินใจว่าเราจะอยู่ในย่าน Higienopolis อาจเพราะเรื่องราคาค่าเช่า เรื่องความปลอดภัย และเรื่องความสะดวกในการใช้ขีวิตในย่านนี้ แต่ที่น่าสัเกตุกว่านั้นอีก ดูเหมือน BR Expat จะเริ่มรู้ตัวว่าเค้ากำลังจะเสียดิวทางการค้าอย่างแน่นอนแล้ว เค้าจึงโทรกลับมาอีกครั้งว่า เค้าได้ค้นพบคอนโดอีก 3 คอนโด ที่อยากให้ไปดูอย่างด่วน! คิดว่าน่าจะถูกใจเราแน่นอน ...ไม่มีอะไรจะเสีย...คุณแฟบกับฉั้นจึงนัดไปดูด้วยกันในวันเสาร์ที่จะถึงทันที

อืมม..มันดีจริงๆด้วย คอนโดย่าน Brooklin ถนน Guararapes (กวาราราปปิ้ส) ตึกก็สวย ขนาดของห้องก็ดี ความสะดวกสบายก็ใช้ได้ ราคาก็พอรับไว้ ที่สำคัญใกล้ที่ทำงานคุณแฟบเอามากๆ กอรปกับเหตุผลบางประการ และเหตุการณ์บางอย่าง ที่ทำให้จนแล้วจนรอด คอนโดย่าน Higienopolis ก็ไม่พร้อมให้เราเข้าอยู่ เหมือนมีอะไรมาดลบรรดาล เราตัดสินใจในวันนั้นทันทีว่า เราชอบที่นี่ล่ะและจะตกลงใจ










หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนเต็มๆอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ถึงเวลาสิ้นสุดซักทีกับการพักอาศัยอยู่บ้านที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง ถึงแม้จะมีแม่ที่คอยดูแลเอาใจใส่และทำกับข้าวให้กิน พ่อที่แสนใจดีและคอยช่วยเหลือทุกอย่าง แถมพี่ชายสุดหล่อ(ของคุณแฟบ)ที่แวะเวียนมาให้ได้แอบชื่นตาชื่นใจ ชุ่มปอดเล่นๆอยู่เป็นประจำ ^^ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความทรมานของการอยากมีพื้นที่ส่วนตัวของเราและอาการอดทนอยู่กับสัมภาระของตัวเองที่มีเพียงแค่กระเป๋าเดินทาง 6 ใบ ที่บรรจุแค่เสื้อผ้าและคอมพิวเตอร์หนึ่งตัว ในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ลดน้อยลงเลย

หลังจากได้เลือกที่อยู่แล้ว ก็ขอถอนหายใจยาวๆหนึ่งทีเพื่อแตรียมพร้อมกับการทำสัญญาเข้าอยู่ และเมื่อมีเวลาให้หายใจเราก็เริ่มทบทวนเหตุการณ์ ว่าทำไมอะไรๆถึงใช้เวลานานและยากเย็นขนาดนี้กะอีแค่หาบ้านอยู่ คิดแล้วคิดอีก จนเจอคำตอบที่ต้องการเมื่อเราขอ Quotation จากบริษัท BR Expat เพื่อดูว่ารายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันเท่าไร ยังไง การตระเวนเยี่ยมชมย่านที่พักอาศัย การตระเวนดูคอนโดกว่า 23 หลัง รวมทั้งการพาฉั้นไปซิตี้ทัวร์ด้วย รวมแล้วเบ็ดเสร็จ “แพง” จนแทบหงายหลังตึง! เค้าชาร์จค่าดูคอนโดตามจำนวนหลัง นั้นหมายความว่า ยิ่งดูมากเค้ายิ่งได้มาก นี่ถ้าเราไม่มีตัวเลือกอื่นไว้สำรอง เราก็ยังจะต้องใช้เวลาตะเวนหาไปเรื่อยๆ โอ้ว...แม่เจ้า นี่มันปล้นกันชัดๆ!! ความผิดหวังเกิดขึ้นทันที เมื่อรู้สึกเหมือนโดนหลอกและโดนล้อเล่นกับความรู้สึกอย่างแรง เป็นไปได้ว่าเราอาจคิดมากเกินไป แต่เมื่อเกิดความรู้สึกแบบนั้นซะแล้วก็ยากเกินจะแก้ เราตัดสินใจจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเสร็จสับและยกเลิกที่จะใช้บริการกับบริษัทนี้ต่อ ซึ่งสิ่งที่ยังคงค้างอยู่ก็คือ คลาสเรียนภาษาโปรตุเกสของฉั้นเอง แต่ถึงจุดนี้ ให้ทำใจเรียนกับเค้าคงไม่ไหว จึงเรียนแจ้งขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับบริการที่มีให้ตลอดมาและแจ้งเป็นนัยๆว่าเราจบกันเพียงเท่านี้.......สวีดัส สวัสดี!! และตั้งหน้าตั้งตารอเข้าอยู่บ้านใหม่อย่างใจจดใจจ่อต่อไป

หาบ้านอยู่ใน เซา เปาโล, บราซิล

ไม่น่าเชื่อว่าการหาที่อยู่ในเซาเปาโล จะยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้ นี้ขนาดมี Agency คอยช่วยเหลือยังรู้สึกว่ายากแสนยาก ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีอพาร์ตเม้นท์ดีๆให้เลือก แต่เป็นเพราะเหตุผลร้อยแปดพันเก้า เช่นเรื่องห้องเล็กไป ตึกใหญ่ไป หรือห้องใหญ่ไป ตึกเก่าไป หรือไม่ก็ อยู่ไกลไป แพงเกินไป และอีกต่างๆนานา ซึ่งจนแล้วจนรอด ดูไปประมาณกว่า 23 คอนโด และไม่ถูกใจซักห้อง มันเป็นไปได้ยังไงที่ไม่มีคอนโดไหนใน 23 ห้องนั้นถูกใจตามความต้องการ ไม่ใช่เพราะเราเรื่องมากเกินไปแน่นอน ฉั้นมั่นใจว่ามันต้องมีเหตุผลบางอย่าง เกิดขึ้นด้วยความจงใจ!!

ตั้งแต่เราเดินทางมาถึง เซา เปาโล ข้าวของเครื่องใช้ที่ขนมาด้วย ยังคงอยู่ในเรือ ค่อยๆลอยตามมา ผ่านทีละมหาสมุทรไปเรื่อยๆ แต่เรายังมีเวลารอได้ เพราะเรายังไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเอง ระหว่างที่พักอาศัยอยู่กับ พ่อกะแม่คุณแฟบ ฉั้นก็เริ่มออกตระเวนหาที่อยู่ โดยมีบริษัท BR Expat เป็นตัวแทนพาตระเวนดูย่านที่พักอาศัยดีๆใกล้แหล่งธุรกิจ เพื่อดูว่าที่ไหนที่เราจะอยากอยู่ และให้คำแนะนำ เช่น ย่าน Villa Nova (วิลล่า นอว่า), Moema (โมเอม่า), Itaim(อิตาอิง) ที่เป็นย่านธุรกิจ และใกล้ที่ทำงานคุณแฟบ สะดวกและไม่มีขโมยขโจนชุกชุม เราจึงเลือกที่จะเริ่มตระเวนหาในแหล่งเหล่านี้ก่อน

เราเริ่มวันแรกด้วยการตระเวนดู 5 อพาร์ทเม้นภายใน 1 วัน ฉั้นมีความหวังเต็มเปี่ยม ว่ายังไงต้องชอบซักที่ล่ะ แอบกังวลด้วยซ้ำว่าถ้าได้ที่อยู่เร็ว ต้องรออีกนานเท่าไรกว่าข้าวของเครื่องใช้จะเดินทางมาถึง! เราตั้งใจจะดูคอนโดที่ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ หรือ Fully Furnished เพราะเราไม่มีเฟอร์นิเจอร์ เรามาแต่ตัวและของแต่งบ้านเล็กๆน้อยๆ ตัวแทนของ BR Expat มีหน้าที่มารับฉั้นที่บ้านและติดต่อ Realtors หรือนายหน้าอีกทีเพื่อให้พาเข้าไปดูห้อง เริ่มต้นที่แรกจึงเป็นคอนโดแบบ กึ่ง Fully Furnished ตั้งอยู่บน ถนน Rocio - Villa Olympia ตึกใหญ่โต โอ่โถง 3 หลัง ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ตรงกลางมีสวนดอกไม้สวยงามตั้งประดับอยู่ อากาศดีๆลมพัดเย็นๆ ลงมานั่งเล่นบริเวณนี้คงดีไม่น้อย เราเดินผ่านเข้าประตูคอนโด ไฮโดรลิค 2 ชั้น ที่ควบคุมโดย Security Guard 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกคอนโด เดินตรงไปยังตึกในสุด ขึ้นลิฟท์ปุ๊ป ลิฟท์ก็ไปจอดหน้าประตูห้องปั๊บ เปิดประตูเข้าไปก็เจอห้องรับแขกเล็กๆ ห้องครัวเล็กๆ ห้องนอนเล็กๆ 3 ห้อง ฉั้นเกือบจะประทับใจ แต่....ดูจากขนาดห้องแล้วออกจะไม่เหมาะสมกับตึกหลังเบ้อเริ่มเทิ่ม เฟอร์นิเจอร์ก็แสนจะธรรมดาและไม่เค้าชุดกัน โต๊ะสีนึง โซฟาอีกสีนึง ระเบียงที่ขึงรอบไว้ด้วยตะข่ายกึ่งลูกกรง จริงๆแล้วโดยรวม เมื่อเดินดูจนรอบๆ ทั้งห้อง Fitness ซาวน่า และสระว่ายน้ำ ต่างก็ดูดีใช้ได้ แต่เมื่อยังไม่ถึงเวลาตัดสินใจ เราจึงเดินทางต่อไปยังคอนโดถัดไปย่าน Moema หลังนี้สวยน้อยกว่าหลังที่แล้วหน่อย และดูเก่ากว่า คอนโดแบบ Duplex มี 2 ชั้น ห้องรับแขกขนาดใหญ่โตโอ่โถง ห้องครัวก็ใหญ่แต่ดูเก่าๆ พิลึก เดินขึ้นชั้นสอง เริ่มดูน่ากลัว ตกแต่งข้าวของเครื่องใช้ เช่น อ่างน้ำ ก๊อกน้ำ ประตู หัวเตียง สไตล์เก่าๆ ดูเชยๆ ในอาคารเดียวกันมีอีกห้องที่เราแวะไปดู ซึ่งก็ไม่ต้องบรรยายมาก เพราะทั้งเก่าและชำรุดทรุดโทรมไปบ้าง ราคาพอๆกัน ถึงแม้เจ้าของบอกว่าจะซ่อมแซมทุกสิ่งทุกอย่างให้ แต่ฉั้นก็ยังไม่ประทับใจ เราจึงยังคงตระเวนหากันต่อไป




















หลังจากที่ฉั้นยังไม่ตกลงปลงใจกับ 5 คอนโดในวันแรก วันที่สองของการตระเวนจึงเกิดขึ้นพร้อมกับอีก 5 คอนโด เหมือนเดิม..เริ่มจาก Villa Nova ไป Moema และเลยไป Itaim คอนโด เก่าบ้าง ใหม่บ้าง แพงบ้าง แพงเกินไปบ้าง(แต่ “ถูกบ้าง” นี่ไม่มีนะ) ตกแต่งบ้าง ไม่ตกแต่งบ้าง แต่มันก็ยังไม่ถูกใจ เพราะถ้าเก่า ก็เข้าขั้นเก่ามากและชำรุดทรุดโทรม ถ้าใหม่ก็ใหม่และแพงมากๆ ส่วนถ้าตกแต่ง ก็มีทั้งตกแต่งแบบน่าเกลียดบ้างหรือไม่ก็ตกแต่งดีแต่แพงเกินไปบ้าง ณ จุดนี้ ฉั้นเริ่มสับสน ...ไม่ใช่เลือกไม่ถูก... แต่ความรู้สึที่ขัดแย้งในหัวตัวเองมันบอกว่า เซา เปาโล ไม่น่าจะไม่มีคอนโดที่พอเหมาะพอดีให้ดู และคำตอบที่ได้รับจากบริษัท BR Expat คือ ที่นี่เมืองใหญ่ หากไม่เจาะและเสาะหาในย่านใดย่านหนึ่ง เราก็จะไม่พบสิ่งที่ดีที่สุด บวกกับข้อแม้นึงของการหาที่อยู่ที่นี่ก็คือ ต้องดูดีๆ เพราะไม่แน่บางทีคอนโดดีๆอาจอยู่ใกล้แหล่งสลัมโดยที่เราไม่รู้ ซึ่งเรื่องความปลอดภัยสำหรับการอาศัยอยู่เมืองนี้ ต้องมาเป็นอันดับต้นๆด้วย แต่ยังไง ฉั้นก็ยังค่อนข้างงง เพราะหลังจากผ่านไป 3 วัน 15 คอนโด สิ่งที่ดีที่สุด ก็ยังไม่ถูกค้นพบ และเรากลับเริ่มต้องขยายพื้นที่ในการตระเวนหาไปในย่านอื่นๆ เช่น Panamby, Alto da Boa Vista และ Campo Belo ซึ่งไกลออกไปจากย่านธุรกิจเล็กน้อยและเป็นโซนไม่ค่อยคุ้นเคย

อาการต๊อแต๊ เริ่มเกิด!!! ฉั้นเริ่มเหนื่อยกับการตระเวนดู เราจึงเริ่มขบวนการ “หาเองโดยไม่พึ่งพาใคร” โดยมีคุณพ่อคุณแฟบผู้แสนใจดีเป็นแรงผลักดัน ชายสูงวัยอายุ 70 กว่าๆเดินท่อมๆสอบถามหาคอนโดให้เช่าในย่าน Higienopolis (ที่ที่เรามาอาศัยบ้านพ่อกะแม่อยู่นั่นเอง ย่านนี้จริงๆแล้วถือเป็นโซนพักอาศัยที่ดีที่สุดย่านนึงเลยทีเดียว เป็นแหล่งคอมมิวนิตี้ของชาวยิว ที่มาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยสงครามโลกนู้น ถือเป็นย่านที่ปลอดภัยและมีระดับ มีร้านอาหารดีๆหลายแห่ง มีห้างหรูตั้งอยู่ และมีร้านเบอร์เกอรี่แสนอร่อยใกล้บ้าน พ่อจึงอยากให้เราพักอยู่แถวนี้ด้วยกัน ถึงแม้มันจะไกลจากที่ทำงานคุณแฟบโขอยู่) พ่อเดินถามไปเรื่อยๆ ทีละหลัง ทีละหลัง จนเจอคอนโดเล็กๆหลังนึง มีห้องว่างราคาไม่แพงมาก(ถ้าเทียบกับที่อื่นๆที่ดูมา) ด้วยความท้อแท้และเกือบหมดแรง เราจึงตัดสินใจว่า เราจะอยู่ที่นี่ล่ะ คุณแฟบอาจต้องยอมขับรถฟันฝ่ารถติดวันละชั่วโมง ในทั้งขาไปและขากลับทุกวัน เราตัดสินใจแจ้งกับบริษัท BR Expat ว่าเราจะขอตระเวนดูกับเค้าอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย หากเรายังตัดสินใจไม่ได้ เราจะเลือกอยู่ที่คอนโดย่าน Higienopolis

ทันทีทันใด เราก็ได้ตัวเลือกโผล่มาอีก 5 คอนโดอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะกระเถิบออกไปในโซนไกลนิดนึงจากโซนเดิมที่เราตั้งใจ แต่คราวนี้ ดูเหมือนทั้งราคาค่าเช่า ขนาด และหน้าตาคอนโดดูไม่เลวและสมเหตุสมผลขึ้นมากทีเดียว เรื่องแปลกที่สังเกตุได้อย่างนึงก็คือ พอเรามีทางเลือกอื่นขึ้นมา เค้ากลับสามารถควานหาตัวเลือกดีๆมาให้เราได้อยู่เหมือนกัน แต่ทำไม..มันไม่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกๆ!! และในที่สุด ก็ถึงเวลาอันควรที่จะต้องตัดสินใจ ถึงแม้วันที่สี่ของการตระเวนหา เราจะได้ตัวเลือกที่ถูกใจขึ้นแต่ก็ยังคงมีอะไรบางอย่างชวนให้ลังเล และสุดท้ายเราก็จำต้องตัดสินใจว่าเราจะอยู่ในย่าน Higienopolis อาจเพราะเรื่องราคาค่าเช่า เรื่องความปลอดภัย และเรื่องความสะดวกในการใช้ขีวิตในย่านนี้ แต่ที่น่าสัเกตุกว่านั้นอีก ดูเหมือน BR Expat จะเริ่มรู้ตัวว่าเค้ากำลังจะเสียดิวทางการค้าอย่างแน่นอนแล้ว เค้าจึงโทรกลับมาอีกครั้งว่า เค้าได้ค้นพบคอนโดอีก 3 คอนโด ที่อยากให้ไปดูอย่างด่วน! คิดว่าน่าจะถูกใจเราแน่นอน ...ไม่มีอะไรจะเสีย...คุณแฟบกับฉั้นจึงนัดไปดูด้วยกันในวันเสาร์ที่จะถึงทันที

อืมม..มันดีจริงๆด้วย คอนโดย่าน Brooklin ถนน Guararapes (กวาราราปปิ้ส) ตึกก็สวย ขนาดของห้องก็ดี ความสะดวกสบายก็ใช้ได้ ราคาก็พอรับไว้ ที่สำคัญใกล้ที่ทำงานคุณแฟบเอามากๆ กอรปกับเหตุผลบางประการ และเหตุการณ์บางอย่าง ที่ทำให้จนแล้วจนรอด คอนโดย่าน Higienopolis ก็ไม่พร้อมให้เราเข้าอยู่ เหมือนมีอะไรมาดลบรรดาล เราตัดสินใจในวันนั้นทันทีว่า เราชอบที่นี่ล่ะและจะตกลงใจ










หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนเต็มๆอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ถึงเวลาสิ้นสุดซักทีกับการพักอาศัยอยู่บ้านที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง ถึงแม้จะมีแม่ที่คอยดูแลเอาใจใส่และทำกับข้าวให้กิน พ่อที่แสนใจดีและคอยช่วยเหลือทุกอย่าง แถมพี่ชายสุดหล่อ(ของคุณแฟบ)ที่แวะเวียนมาให้ได้แอบชื่นตาชื่นใจ ชุ่มปอดเล่นๆอยู่เป็นประจำ ^^ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความทรมานของการอยากมีพื้นที่ส่วนตัวของเราและอาการอดทนอยู่กับสัมภาระของตัวเองที่มีเพียงแค่กระเป๋าเดินทาง 6 ใบ ที่บรรจุแค่เสื้อผ้าและคอมพิวเตอร์หนึ่งตัว ในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ลดน้อยลงเลย

หลังจากได้เลือกที่อยู่แล้ว ก็ขอถอนหายใจยาวๆหนึ่งทีเพื่อแตรียมพร้อมกับการทำสัญญาเข้าอยู่ และเมื่อมีเวลาให้หายใจเราก็เริ่มทบทวนเหตุการณ์ ว่าทำไมอะไรๆถึงใช้เวลานานและยากเย็นขนาดนี้กะอีแค่หาบ้านอยู่ คิดแล้วคิดอีก จนเจอคำตอบที่ต้องการเมื่อเราขอ Quotation จากบริษัท BR Expat เพื่อดูว่ารายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันเท่าไร ยังไง การตระเวนเยี่ยมชมย่านที่พักอาศัย การตระเวนดูคอนโดกว่า 23 หลัง รวมทั้งการพาฉั้นไปซิตี้ทัวร์ด้วย รวมแล้วเบ็ดเสร็จ “แพง” จนแทบหงายหลังตึง! เค้าชาร์จค่าดูคอนโดตามจำนวนหลัง นั้นหมายความว่า ยิ่งดูมากเค้ายิ่งได้มาก นี่ถ้าเราไม่มีตัวเลือกอื่นไว้สำรอง เราก็ยังจะต้องใช้เวลาตะเวนหาไปเรื่อยๆ โอ้ว...แม่เจ้า นี่มันปล้นกันชัดๆ!! ความผิดหวังเกิดขึ้นทันที เมื่อรู้สึกเหมือนโดนหลอกและโดนล้อเล่นกับความรู้สึกอย่างแรง เป็นไปได้ว่าเราอาจคิดมากเกินไป แต่เมื่อเกิดความรู้สึกแบบนั้นซะแล้วก็ยากเกินจะแก้ เราตัดสินใจจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเสร็จสับและยกเลิกที่จะใช้บริการกับบริษัทนี้ต่อ ซึ่งสิ่งที่ยังคงค้างอยู่ก็คือ คลาสเรียนภาษาโปรตุเกสของฉั้นเอง แต่ถึงจุดนี้ ให้ทำใจเรียนกับเค้าคงไม่ไหว จึงเรียนแจ้งขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับบริการที่มีให้ตลอดมาและแจ้งเป็นนัยๆว่าเราจบกันเพียงเท่านี้.......สวีดัส สวัสดี!! และตั้งหน้าตั้งตารอเข้าอยู่บ้านใหม่อย่างใจจดใจจ่อต่อไป

วันพุธ, ธันวาคม 01, 2553

Lula - ความเหงา



ในช่วงอารมณ์ที่เหงาลึกที่สุด เมื่อต้องอยู่คนเดียวในอีกฝั่งโลก..ไกลแสนไกล ไม่มีเพื่อนที่รู้ใจ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว และดูแลตัวเอง

Lula - ความเหงา



ในช่วงอารมณ์ที่เหงาลึกที่สุด เมื่อต้องอยู่คนเดียวในอีกฝั่งโลก..ไกลแสนไกล ไม่มีเพื่อนที่รู้ใจ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว และดูแลตัวเอง

วันพุธ, พฤศจิกายน 03, 2553

ประสบการณ์ทัวร์ประหลาด City Tour Sao Paulo, Downtown

City Tour Sao Paulo ถือเป็นประสบการณ์ City Tour ที่แปลกประหลาด โดยธรรมชาติของการไปท่องเที่ยว นอกจากจะต้องตื่นเต้น เตรียมสะพายกล้อง แต่งตัวมีสีสัน เตรียมเงินพกติดตัว แต่ครั้งนี้ กล้องไม่ควรเตรียม แต่งตัวควรมิดชิด พกเงินไปนิดเดียว และต้องไม่ใส่เครื่องประดับมีค่า! และนี่คือการเตรียมตัวท่องเที่ยวใน เซา ปาโล แผนการในวันนี้คือ City Tour Sao Paulo, Downtown

New Downtown และ Old Downtown คือ โซนในเมืองของ เซา เปาโล ซึ่งถ้าให้จินตนาการคำว่าในเมือง โดยปกติต้องนึกถึงบรรยากาศ ที่มีแหล่งช๊อปปิ้งหรูๆ มีรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดิน ผู้คนแต่งตัวสวยงาม ข้าวของเยอะแยะละลานตา แต่สำหรับที่นี่ก็ละลานตาเหมือนกัน เพราะมีตลาดนัดขนาดใหญ่ขายของถูกอย่างสำเพ็งบ้านเรา มีตลาดสด ขายของสด ของแห้ง ขนม นม เนย ชีส ผลไม้ และอีกมากมาย ขนาดและหน้าตา เห็นแล้วชวนให้นึกถึง หัวลำโพง อาคารบ้านเรือน โบสถ์ โรงเรียน สำนักงานเก่าคร่ำคร่า แบบสถาปัตยกรรมโบราณสไตล์ บาร็อก (Baroque) และโกธิก (Gothic) แบบดิบๆ บ้างก็เก่าชำรุดทรุดโทรมแต่ก็ดูมีมนต์ขลัง บ้างก็ปรักหักพังอยู่ท่ามกลางตึกใหม่ๆ ที่ดูแล้วขัดตา ผู้คนเดินกันขวักไขว่ ปนเปไปทั้งคนทำงานและคนจรจัด ย่าน Downtown นี้เมื่อ 30 ปีก่อนเคยเป็นแหล่งเจริญรุ่งเรือง เป็นที่ตั้งของ ธนาคาร และสำนักงานใหญ่ๆหลายแห่ง แต่เมื่อการเจริญเติบโตของเมือง เซา เปาโล ถูกพัฒนาไปอย่างไม่มีทิศทางเมื่อช่วง 20-30 ปีที่แล้ว ได้ยินว่าคนฐานะยากจนจากเมืองอื่นๆ อพยพเข้ามาหางานทำที่นี่และสุดท้ายก็ยึดพื้นที่ Downtown เป็นที่อยู่อาศัยแบบถาวร และแผนพัฒนาของรัฐบาลแทนที่จะพัฒนา Downtown ต่อไป กลับกลายเป็นมีแหล่งธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายกระจายไปในโซนอื่นๆ ซึ่งห่างจากย่าน Downtown ออกไป เช่น Paulista Ave. (เปาลิสต้า อเวนิว) เป็นต้น ปล่อยให้ทั้ง New Downtown และ Old Downtown เก่าเก็บ ชำรุดทรุดโทรมอย่างปัจจุบัน
Igreja de Se Cathedral
วันนี้ฉั้นเริ่มออกเดินทางโดยมีไกด์สาวมาดแมน นามว่า Flavia ขับรถมารับฉั้นที่บ้านย่าน Higienopolis (อีเจียนโนโปลิส) ตรงเข้าสู่ Downtown ซึ่งไม่ไกลกันมาก โบสถ์คริสต์ Igreja de Se Cathedral (อิเกรชา จี เซ่ คาเทรดราว) สไตล์ Gothic โบราณเป็นที่แรกที่ผ่าน โบสถ์นี้ถือเป็นโบสถ์ประจำเมือง ทั้งเก่าแก่และใหญ่โต ยังคงมีความสวยงามและมีมนต์ขลัง ตั้งอยู่ Se Square (เซ่ สแควร์) ใจกลางเมือง ที่ที่เราเข้าไปหาที่จอดรถในซอยใกล้ๆ เพื่อเดินเท้าผ่านเข้าสู่ Old Downtown


Para de Se หรือ Se Square ถือได้ว่าเป็น Center หรือใจกลาง Downtown ที่อีกด้านหนึ่งของ Square มีพิพิธภัณฑ์ Museu Anchiata (มิวเซอู อังชิเอต้า) ที่ภายในถูกปรับปรุงเป็นสวนนั่งเล่นส่วนหนึ่ง ปลูกต้นไม้หายากหลายชนิด และเป็นที่เก็บรักษาซากกำแพงเมืองบางส่วนที่ถูกสร้างแบบชาวอินเดียนแดงเมื่อพันกว่าปีก่อน ที่สร้างด้วยวิธีโยนดินเหนียวที่ละก้อนเข้าไปปะติดปะต่อกันจนเป็นรูปเป็นร่างกำแพงดินขึ้นมา ด้านฝั่งตรงข้ามของพิพิธภัณฑ์มีตึกโบราณสไตล์โกธิกดูเก่าแก่และมีมนต์ขลังอีกหลายตึกและก็มีอนุสวรีย์โบราณรูปร่างน่ากลัวกว่าตึกอีก..ตั้งอยู่!!




ฉั้นเริ่มหยิบ iPhone ขึ้นมาเก็บบรรยากาศและรูปถ่าย เสียงเตือนจากไกด์ก็ดังขึ้นทันทีว่าให้ระวัง ถ่ายแล้วก็รีบเก็บ เพราะที่นี่ iPhone ถ้าถูกฉกไปแล้วละก็ ขายได้ราคาที่เดียวเชียว! หลังจากเก็บ iPhone กลับเข้าที่อย่างเหลียวหน้าพะวงหลัง เราก็เริ่มเดินทางกันต่อผ่านตึกเก่าๆมากมาย และอาคารโบราณที่เคยเป็นสำนักงานใหญ่ของธนาคารต่างๆใน เซาเปาโล ซึ่งปัจจุบันหลายๆแห่งได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปตั้งที่อื่นที่ใหม่กว่า ทิ้งตึกเก่าแก่นี้ไว้ให้ถูกแปรสภาพเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแทน เช่น Banco de Sao Paulo (บังคุ จี เซา เปาโล) หรือ Bank of Sao Paulo ที่บนชั้นสูงสุดของยอดตึก กลายเป็นจุดชมวิวเมืองเซาเปาโลแบบ 360 องศา มองลงมาเห็นบ้านเมืองชัดเจน ความแตกต่างที่ฉั้นเห็นจากมุมสูงก็คือ ที่นี่บ้านเมืองไม่ได้มีสีสันมาก ถ้าไม่สร้างด้วยปูนธรรมดาก็จะสร้างด้วยอิฐแดงแบบไม่พถีพิถัน ตึกไหนที่มีสีสันก็จะเห็นโดดเด่นสะดุดตาขึ้นมา บริเวณโดยรอบ Downtown มีตึกใหญ่ๆสูงๆไม่มากนัก นอกจากตึกที่เรากำลังยืนอยู่และบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น มองไปไกลสุดตาเห็นภูเขาล้อมรอบเมืองอยู่ ถัดจากการชมวิวมุมสูง เราก็กลับลงมาเดินผ่านย่าน Downtown กันต่อ แวะเข้าไปใน Stock Market เนื่องจากแถวนี้เคยเต็มไปด้วยธนาคาร ตลาดหุ้นจึงมีบทบาทสำคัญในอดีต แต่ปัจจุบันโถงที่เคยเต็มไปด้วยโบรกเกอร์ก็ถูกผันให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่สนใจเกี่ยวกับตลาดหุ้นเข้ามาดู เหมือนเป็นนิทรรศการแทน โดยเปิดสอนและให้คำอธิบายโดยผู้ที่เคยทำงานเป็นโบรกเกอร์เมื่อหลายปีก่อนนั่นเอง และการบรรยายไม่มีภาษาอังกฤษมีแต่ภาษา Portuguese เท่านั้น!


ออกจากตลาดหุ้น เราก็แวะ Art Gallery บ้าง ธนาคารบ้าง และโรงหนังเก่าๆ หลายแห่ง จนมาถึง Teatro Municipal (เทอาโตร มิวนิซิปาว) ซึ่งเป็นโรงหนังในตึกโบราณสไตล์โกธิก ที่ปัจจุบันก็ยังมีกิจกรรมฉายหนัง ทั้งเก่าทั้งใหม่ มี Opera Hall และ Concert Hall มีแสดงละครเวที มีมุมร้านขายหนังสือ และมุมบริการจิบชากาแฟฟรีตามอัธยาศัย ดูแล้วน่าจะสุนทรีย์ ด้านหน้าโรงหนัง ผู้คนเดินกันพลุกพล่าน มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบ้าง นักท่องเที่ยวชาวบราซิลเลี่ยนก็มี แล้วถ้าให้เดา ฉั้นน่าจะเป็นคนไทยคนเดียวที่หลงเข้ามาที่นี่! เรามาถึงในช่วงที่หน้าโรงหนังมีโชว์เล็กๆพอดี มีสองสาวแต่งตัวสวยงามสไตล์โบราณ และอีกสองหนุ่มสะพายกีต้า มาร้องเพลงกันเพื่อเชิญชวนให้คนเข้าไปเที่ยวชมในโรงหนัง ดูแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ


Teatro Municipal (เทอาโตร มิวนิซิปาว)


ที่ Old Downtown นี้มี Mercado Municipal (เมอร์ซาโด มิวนิซิปาว) คือตลาดสดขนาดใหญ่ที่พูดถึงในตอนต้น เป็นตลาดที่เก่าแก่และขึ้นชื่อเพราะขนาดใหญ่เกือบเท่า หัวลำโพง บ้านเรา มีความสวยงามซ่อนอยู่ภายในตึก ที่ตกแต่งด้านหน้าด้วยกระจกที่มีสีสันและลวดลาย ที่นี่เต็มไปด้วยอาหารนานาชนิด ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ขนม นม เนย ผลไม้ ชีส เครื่องเทศ เนื้อสัตว์ และอื่นๆอีกมากมายเต็มไปหมด และมีร้านอาหารอยู่บนชั้นสองซึ่งเป็นชั้นลอย ซึ่งคนจะแน่นเอี๊ยดในวันเสาว์อาทิตย์ อาหารขึ้นชื่อที่นี่ คือ Pie สอดใส้ชนิดหนึ่ง ชื่อ Pastel (พาสเทล) ขายดีสุดๆรสชาติเอร็ดอร่อยเหมือนแป้งทอดกรอบๆแล้วแน่นไปด้วยใส้พายด้านใน มีให้เลือกทั้งใส้กุ้ง ใส้ไก่ ใส้เนื้อ และขายดีที่สุดเหมือนจะเป็นใส้ปลา เรียก Pastel de Bacalhau (พาสเทล จี บาคาเลียว) บาคาเลียวแปลว่าปลา แต่เป็นปลาเค็มนะ ต้องเรียกปลาเค็มตากแห้งน่าจะเหมาะกว่า เพราะเค็มได้ใจจริงๆก่อนนำไปทำอาหารต้องล้างน้ำก่อนหลายๆรอบ บางทีล้างแล้วแช่น้ำค้างคืนไว้ยังไม่หายเค็มเลย แต่คนบราซิลชอบกิน โดยเฉพาะในพาสเทลทอดกรอบๆร้อนๆกินกับโค้กซ่าๆซักกระป๋องนี่ล่ะ ... อืมมม มิน่าลูกค้าเข้าคิวยาวเหยียดทีเดียวเชียว


Menu Pastel&others
Pastel 
และจากที่นั่น ถนนใกล้ๆกันก็มี ตลาดขายของถูกอย่างสำเพ็งบ้านเรา ตั้งอยูบนถนน 25 de Março (วินชิซิงกุ จี มาร์คโซ) ใหญ่โตมโหราฬ คนพลุกพล่านและมีของขายเกือบทุกอย่าง เช่น เครื่องประดับ ของประดิษฐ์ ของที่ระลึก ของเล่น เครื่องสำอางค์ และอีกมากมายขายในราคาถูก แต่อย่างเคยต้องเดินด้วยความระมัดระวัง (กระเป๋าตังค์และของมีค่า) และมีสติอยู่เสมอ เพราะคนยิ่งมากยิ่งอันตราย แต่หากชอบซื้อของถูกและต่อรองได้ ก็ต้องมาที่นี่ล่ะ




เราเดินรอบๆเมืองซักพักเพื่อเก็บบรรยากาศความกว้างใหญ่โตและความพลุกพล่านของเมือง ก่อนวนกลับมายังที่จอดรถและเริ่มขับรถวนรอบเมืองอีกนิดเพื่อเข้าสู่ New Downtown เราได้แวะอีกหนึ่งที่ คือ โบสถ์คริสต์แบบโบราณ ที่เก่าแก่ สวยงาม ดูลึกลับและมีมนต์ขลัง ภายในมืดทึม มีคนมานั่งสวดมนต์ขอพร มีรูปปั้นพระเยซู พระแม่มาเรีย สไตล์โบราณพิถีถิถันสวยงาม ส่วนหน้าของโบสถ์เป็นร้านขายขนมปังสูตรพิเศษที่หลวงพ่อในโบสถ์ท่าลงมือทำเองและขายในราคาย่อมเยาว์


เราเข้าสู่ New Downtown ซึ่งหน้าตาแตกต่างจาก Old Downtown อย่างเห็นได้ชัด เพราะโซนนี้ไม่มีอาคารโบราณใหญ่โต ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยว มีแต่อาคารพาณิชย์หน้าตาธรรมดาและสถานีรถไฟใต้ดินหลายสถานีตั้งอยู่ สำหรับใครที่ต้องการเดินทางมา Downtown ก็สามารถโดยสารรถไฟใต้ดินได้ สะดวกกว่าเพราะไม่ต้องพะวงเรื่องการหาที่จอดรถให้วุ่นวาย สถานีรถไฟที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็น Luz Station (ลูซ สเตชั่น) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟแห่งใหญ่ มีรูปร่างและโคร่งสร้างสวยงามไสตล์อังกฤษ ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ คศ.1991 ฝั่งตรงข้ามเป็น Pinacoteca do Estado ซึ่งเป็น Art Gallery และ Musuem ขนาดใหญ่ สร้างด้วยอิฐสีแดงดูเป็นศิลปะดิบๆไม่พิถีพิถัน สร้างตั้งแต่ปี คศ. 1889 


ติดกันด้านข้างมีสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ที่เค้าว่ามีเจ้าตัว Sloth ซึ่งเป็นสัตว์อนุรักษ์ของบราซิล มีมากในป่า Amazon หน้าตาคล้ายกับหมีโควล่าแต่ว่าขี้เหล่กว่าเยอะ! มีนิ้ว 3 นิ้วพร้อมกับเล็บที่ยาวมาก ใช้ในการปีนขึ้นต้นไม้ แบบ Slow Motion ..Slow มากจนขึ้นชื่อและได้ฉายาว่า "เจ้าตัวขี้เกียจ" เพราะมันใช้เวลาเป็นวันๆ กว่าจะปีนถึงยอดไม้ซึ่งเป็นแหล่งอาหารและที่อยู่ของมัน ซึ่งเมื่อขึ้นไปถึงยอดแล้ว กว่าจะกลับลงมาอีกอย่างแสนจะเชื่องช้า ก็ประมาณอีกหนึ่งสัปดาห์ เพื่อลงมาฉี่เท่านั้น เราแวะเข้าไปเดินเล่นในสวนเพื่อตามหาตัว Sloth เพราะฉั้นอยากเห็นตัวเป็นๆ แต่วันที่เราแวะไปมันเพิ่งจะลงมาฉี่ไปเมื่อวาน เลยพลาดโอกาสได้เห็น เสียดายจัง อดเห็นสัตว์ขี้เหล่! ในสวนสาธารณะ ฉั้นก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตุผู้คนที่เดินบ้างนั่งบ้างอยู่ในสวน มือก็กำกระเป๋าถือจนแน่น ตาก็สังเกตุเห็นผู้คน มองไปที่ใครก็รู้สึกเหมือนทุกคนกำลังจ้องมองมาที่ฉั้นเข้าทำนอง “ตื่นตูม” ปน “หวาดระแวง” ดูแล้วยิ่งชวนให้คิดถึงสวนลุมพินี ในยามค่ำคืนซะนี่กระไร ผู้หญิงบางคนแต่งตัวแปลกๆ นุ่งกระโปรงสั้น ผิวดำกร้านทาปากแดง ยืนตามต้นไม้บ้าง นั่งอยู่ตามเก้าอี้บ้าง ผู้ชายก็มาเดินทอดน่องบ้าง บางคนก็มานั่งมองโน่นมองนี่อย่างไม่มีจุดหมาย(หรือมีก็ไม่รู้)บ้าง ในขณะที่ฉั้นกำลังสังเกตุผู้คนในบริเวณรอบๆ Flavia ไกด์สาวมาดแมนของฉั้นยังคงเดินตามหา Sloth ต่อไปอย่างห้าวหาญ สมแล้วที่เป็นไกด์ เพราะดูไปดูมา ฉั้นชักจะเริ่มกลัว Flavia แทนซะเอง!

Luz Station











ด้านข้าง Pinacoteca do Estado


ด้านหน้า Pinacoteca do Estado
และแล้วการเดินทาง City Tour กว่าค่อนวันของฉั้นก็สิ้นสุดลง หลังจากสวนสาธารณะแห่งนี้เราเริ่มเดินทางออกจาก New Downtown พร้อมด้วยอาการหายใจทั่วท้องอีกครั้ง การท่องเที่ยว City Tour ครั้งนี้มอบความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับฉั้น เป็นการท่องเที่ยวแบบไม่พกกล้อง อาจหมดสนุกไปบ้างเพราะมัวแต่หวาดระแวง ทำไงได้ฉั้นอยู่ที่นี่ เหมือนคนไม่รู้หนังสือ เขียนก็ไม่ได้ อ่านก็ไม่ออก หากเกิดไรขึ้นกับฉั้นที่นี่ยังไม่รู้เลยว่าจะสามารถสื่อสารกับตำรวจได้ยังไง แต่สุดท้ายการเดินทางท่องเที่ยวช่วงสั้นๆครั้งนี้ ก็ปลอดภัยดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และได้พบเห็นผู้คนที่แตกต่าง ศิลปะที่บอกไม่ได้ว่าสวยหรือไม่สวย ดิบและเก่าและดูลึกลับ

บราซิลเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ในตัวเอง มีอะไรมากมายที่น่าสนใจ เซา เปาโล เป็นเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความไม่เท่าเทียม ความเก่าอยู่ท่ามกลางความใหม่ ความรวยใกล้กันแค่คืบกับความจน ความอวดร่ำอวดรวยมาคู่กับการโจรกรรม ความเลือดร้อนก็มาควบคู่กับการทะเลาะเบาะแว้งและการเข่นฆ่า ความปลอดภัยอยู่ใกล้นิดเดียวกับความอันตราย สิ่งต่างๆเหล่านี้ถูกแยกออกจากกันด้วยเส้นแบ่งบางๆเท่านั้น นั่นหมายความว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ใน เซา เปาโล คนที่นี้รู้ดีว่ามันเป็นอย่างนี้มาเนิ่นนานและดูเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนแปลง
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...