ฉั้นเพิ่งเขียนโพสต์ก่อนหน้าเรื่องความรัก ไม่อยากจะเชื่อว่าโพสต์ถัดมาจะเป็นเรื่องที่ว่าด้วย "ความตาย" ใช่..ความตาย ฉั้นย้ำอีกครั้งเพื่อตอกย้ำให้ตัวเองต้องเชื่อ ว่าฉั้นเพิ่งผ่านการรู้สึกโศกเศร้าเสียใจ เมื่อความตายมาพรากชีวิตเพื่อนรักของฉั้นไปอย่างหน้าตาเฉย ไม่บอกไม่กล่าว และไม่มีแม้โอกาสได้ร่ำลา
ฉั้นไม่เคยคิดว่า ความตาย จะสามารถเกิดขึ้นได้รวดเร็วขนาดนี้ยกเว้นแต่ความตายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ เพื่อนฉั้น..ไม่ได้ป่วยด้วยโรคร้ายแรง แต่การจากไปของเธอสร้างความงงงวยให้กับทั้งคนรัก ครอบครัว เพื่อนฝูง และแม้แต่คนแค่รู้จักกันผิวเผิน เหมือนดารา Hollywood ที่จากไปอย่างไม่มีสาเหตุ ผลชันสูจน์คร่าวๆระบุว่าเธอจากไปด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ทุกคนต่างใจจดใจจ่อว่าผลโดยละเอียดที่จะออกมาในอีก 45 วันนั้น จะปรากฏสิ่งที่เราไม่รู้และไม่คาดคิดอะไรอีกบ้างมั้ย คนเราจะสามารถตายในขณะที่นั่งทานอาหารสังสรรค์์กับเพื่อนฝูงได้อย่างไรแบบไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆเตือนก่อนล่วงหน้า ฉั้นยังแอบต่อว่ามันในใจที่ไม่ให้โอกาสใครได้ไปดูใจหรือแสดงความห่วงใยก่อนจาก เหมือนนึกอยากจะตายก็ตายอย่างงั้นหรือ....หรือไม่ได้อยากจะตายแต่อยู่ดีๆเส้นเลือดในสมองก็สลายตัว หัวใจก็หยุดเต้น ลมหายใจก็หมดลง แล้วก็จากไป มันง่ายดายได้อย่างงั้นเชียวหรือ....ฉั้นไม่อยากจะเชื่อ และยังไม่เชื่อจนกระทั่งตอนนี้
ผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ ฉั้นยังไม่สามารถหยุดคิดและตั้งคำถาม ทั้งที่พยามบอกตัวเองว่า บางสิ่งบางอย่างบนโลกใบนี้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อย่างไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลให้ต้องทำความเข้าใจ หรือไม่เหตุผลนั้นก็ยากเกินกว่าจะสามารถเข้าใจ ฉั้นได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างจากการจากไปอย่างไม่มีวันกลับครั้งนี้ นอกเหนือจาก สิ่งที่ยากเกินกว่าความเข้าใจที่ว่าแล้ว ฉั้นยังพบว่าความน่ากลัวของความตาย ไม่ใช่ความเศร้าหรือความสูญเสีย แต่ความน่ากลัวที่สุด คือ ความเสียดาย หากไม่มีโอกาสแสดงความรักในขณะที่คนที่เรารักยังอยู่ และ ความเสียใจ หากเค้าไม่เคยรับรู้ถึงความรักที่เรามีต่อเค้าว่ามันมากมายเพียงใด จึงทำให้ฉั้นเกิดความรู้สึกหวงแหนและเห็นค่าของความรักที่ยังมีตัวตนอยู่ในขณะนี้มากขึ้นอีกหลายเท่า
ในอีกบางแง่มุม น่าประหลาดใจที่ฉั้นไม่เคยรู้มาก่อน ว่าโลกไซเบอร์ หรือ Social Network กลายเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่รู้ว่ามันช่วยเบี่ยงเบนจิตใจออกจากความกลัว ความเศร้า ความคิดถึงและความหดหู่ได้จริงๆ หรือมันจะเป็นแค่การเพิ่มประเด็นความน่าสนใจให้กับตัวผู้โพสต์เองกันแน่ เพราะคนบางคน ทำเสมือนว่า ความตาย ที่ได้พรากคนที่มีความสำคัญคนหนึ่งไปจากชีวิต มันจะมีความสำคัญเพียงแค่การได้มีอะไร update status อยู่ตลอดเวลา แต่กับบางคน มันก็เป็นแค่ช่องทางเดียวจริงๆ ที่เหลือให้คนหัวใจแตกสลายแต่ยังมีชีวิตอยู่ ได้ติดต่อสื่อสารกับคนที่จากไปไกลแสนไกล ทั้งที่รู้ว่าจะไม่มีข้อความใดๆส่งตอบกลับมา
ฉั้นนั่งเศร้าซึมอยู่นานหลายวัน และเชื่อว่าหลายๆคนที่ยังตกอยู่ในอาการช็อกคงเป็นแบบฉั้น มันน่าเศร้านะที่ต้องพยามทำใจให้เชื่อว่า คนที่เรารักเค้าจากไปแล้วจริงๆ ไม่มีโอกาสได้เจอเค้าแล้ว แต่ก็ต้องทำใจเพราะอย่างน้อย การจากไปแบบไม่ทรมาน เป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า คนคนนั้นได้ไปดีและได้กลับสู่สวรรค์ อย่างน้อยเพื่อนฉั้นก็ได้ไปสวรรค์ ขอให้เพื่อนมีความสุข สงบ อยู่บนสรวงสวรรค์ เพื่อนคงได้รับรู้ถึงความรักที่ฉั้นมีให้ ขอไว้อาลัยให้กับการจากไปและจะขอจดจำสิ่งดีๆทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเราไว้ในความทรงจำของฉั้นตลอดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น