เพิ่งจะผ่านวันเกิดของตัวเองไปไม่กี่วัน ปีนี้เห็นทีจะเป็นปีที่ได้รับคำอวยพรมากที่สุดในชีวิต ถึงแม้จะผ่านโลกออนไลน์ซะส่วนใหญ่แต่ก็เพิ่งรู้ว่า มันช่างมีความสุขอย่างนี้นี่เอง
ฉั้นเติบโตมาจากครอบครัวเล็กๆ ธรรมดาแสนธรรมดา ครอบครัวหนึ่ง ที่ประกอบด้วยพ่อแม่และพี่น้องสี่คน เราไม่เคยจัดงานวันเกิดให้กันและกัน ไม่ค่อยได้ให้้ของขวัญวันเกิดกันและกัน ไม่เคยรู้ว่า วันเกิด เป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งสำหรับบางคน ตัวฉั้นเองไม่เคยให้ของขวัญวันเกิดใครแม้กระทั่งเพื่อนสนิท ไม่เคยให้คำอวยพรใครในวันเกิดเพราะทำไม่เป็น และไม่เคยให้ความสำคัญวันเกิดมากไปกว่าวันอื่นๆไม่ว่าจะเป็นวันจันทร์ถึงศุกร์ วันปีใหม่ ไทย จีน ฝรั่ง วันวาเลนไทน์ หรือแม้กระทั่งวันเชงเม้ง เฮ้้อ...เมื่อคิดย้อนไป รู้สึกแย่กับตัวเอง แต่ทำไมน่ะเหรอ ก็เป็นเพราะว่าแม้กระทั่งพ่อของฉั้นเอง ท่านยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเกิดของตัวท่านเองเลย แม่ฉั้นก็เช่นกัน และน่ันล่ะคือสาเหตุว่าฉั้นและพี่น้องอีก 3 คนจึงเติบโตมาแบบไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันเกิดหรือวันใดๆเป็นพิเศษ เพราะเราถูกเลื้ยงดูมาให้รู้สึกว่าวันไหนๆก็มีความสำคัญ(เอ..หรือไม่มีความสำคัญหว่า)เท่าๆกัน อ้อ..แต่ก็มีเหมือนกันนะที่เราให้ความสำคัญกับบางวัน เช่น วันสงกรานต์ที่พ่อจะเป็นผู้นำครอบครัวในการสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคลทุุกปี แล้วก็วันตรุษจีน ที่แม่จะเป็นผู้นำในการไหว้เจ้ากันเล็กน้อยเพราะพ่อของฉั้นมีเชื้อสายจีน ฉั้นก็มีความสุขดีในวัยเด็กและใช้ชีวิตอย่างเด็กทั่วไปทุกประการ เพราะไม่เคยตระหนักว่า หลายต่อหลายคนบนโลกใบนี้เค้าให้ความสำคัญๆกับวันต่างๆ โดยเฉพาะวันเกิด กันเป็นพิเศษ จนกระทั่งฉั้นเติบโตและต้องเข้าสังคมแบบจริงๆจังๆ
ปีนี้ถือเป็นปีแรกในชีวิต ที่ได้รับคำอวยพรจากทั่วสารทิศ ได้ฉลองวันเกิดเล็กๆกับครอบครัวของคุณแฟบในบราซิล ได้ของขวัญวันเกิดชิ้นพิเศษจากคุณแฟบ และมีความสุขเล็กๆกับการได้ไปเดินช้อปปิ้งเพื่อหาซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณแฟบอีกครั้งเป็นปีที่ 7 เพราะเราเกิดห่างกันแค่เพียงสองวัน ทุกปีเราจะฉลองวันเกิดเล็กๆด้วยกันเพียงลำพัง เป่าเค้กอันเล็กๆร่วมกันอย่างเงียบๆในช่วงที่เรายังอยู่เมืองไทย และอาจแยกย้ายไปฉลองปาร์ตี้วันเกิดแบบเล็กๆกับครอบครัวบ้าง เพื่อนซี้บ้างแล้วแต่อารมณ์และความสะดวก ซึ่งความสุขเล็กๆนั่นไม่ได้สร้างความแตกต่าง ครั้งนี้การเดินช้อปปิ้งคนเดียวในห้างใหญ่กลางใจเมือง เซา เปาโล เพื่อหาซื้อของขวัญสร้างความตื่นเต้นพอสมควร การร่วมเป่าเค้กอันเบ้อเริ่มที่คุณแม่คุณแฟบอุตส่าห์ทำมาฝากลูกชายสุดที่รักโดยมีฉั้นพ่วงท้ายมาด้วยนั้นสร้างความสุขใจและอบอุ่น แต่ความแตกต่างที่ว่ามาก็ยังไม่เทียบเท่ากับการได้เรียนรู้ว่า การที่มีใครให้ความสำคัญกับเราแม้เพียงเล็กน้อย สามารถสร้างความสุขที่แตกต่างและการได้เป็นผู้ให้บ้างก็สร้่างความสุขยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
อาจจะช้าไปหน่อยที่เพิ่งเรียนรู้เรื่องนี้ตอนอายุย่างเข้าเลขสามปลายๆ แต่อย่างน้อยก็ยังไม่สายเกินไปที่จะได้แสดงออก หากว่าเรารักใครหรือมีความรู้สึกดีๆให้กับใครซักคนหรือหลายคน...ฝึกตัวเองให้รู้จักให้ความสำคัญกับเค้า เพราะแม้สิ่งเล็กน้อยแค่ไหนที่เราสามารถทำได้ มันก็สื่อได้ถึงความรัก ช่างมีค่าแค่ไหนที่เราได้เกิดมา ได้พบกัน และได้รู้จักกัน และดีแค่ไหนที่อย่างน้อยเราก็ได้มีชีวิตอยู่ร่วมกันเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปีต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนตลอดชั่วชีวิตของกันและกัน ไม่ว่าความสัมพันธ์จะเป็นในรูปแบบไหนก็ตาม...