ได้กลับมามีแรงบันดาลใจในการเขียนบล๊อกวันนี้ รู้สึกกระปรี้กระเปร่า หลังจากผ่านเรื่องวุ่นวายใจมาพักใหญ่ ถึงเวลาหายใจแรงๆหนึ่งเฮือกแล้วคิดว่าตรูจะเขียนอะไรดีหว่า เพราะมีเรื่องมากมายในหัว อืมม...เอาเรื่องของกินดีกว่า อิ อิ เพราะกำลังหิวพอดี ไหนๆก็อยู่มาครบหกเดือนเต็ม ลิ้มลองอาหารบราซิลมาหลายอย่าง ทั้ง Homemade และ Restaurant วันนี้เลยได้โอกาสช่วงว่างและหิว เล่าให้ฟังดีกว่าว่าคนบราซิลเค้ากินอะไรกัน
จะว่าไป คนบราซิลนี่ก็เรียก..อยู่เพื่ิอกิน..ได้เหมือนกันนะ ไม่ได้ว่า..แต่เป็นเพราะอาหารและเครื่องดื่มที่นี่ช่างมีให้เลือกมากมายหลากหลาย ทั้งถูกทั้งแพง ไม่แพ้อาหารบ้านเรา โดยเฉพาะเครื่องดื่มมึนเมามีสารพัดสารพันรูปแบบ คนที่นี่ชอบดื่มเบียร์และว็อดก้าเป็นอันดับต้นๆ แต่ใจเย็นๆ ก็พูดเรื่องอาหารก่อน อิ่มท้องแล้วเราค่อยว่าเรื่องเครื่องดื่ม
เริ่มจากอาหาร Homemade ก่อนดีกว่า เพราะหลังจากหกเดือนผ่านไป ได้ลิ้มลองอาหารมากมายหลายชนิด ที่คุณแม่คุณแฟบทำให้ทาน ต้องยอมรับว่ามีทั้งที่ถูกปากและแปลกๆ และมีที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ และมีทั้งที่ทำซ้ำหลายรอบจนเดาได้ว่า นี่น่าจะเป็นอาหารบราซิลเลี่ยนแน่นอน คนที่นี่มื้อหลักคือมื้อเที่ยง เพราะมื้อเช้า (Café da manhã - กาแฟ ดา มานย่า)กับมือเย็น (Jantar - จันตาร์)ส่วนใหญ่ก็เป็นกาแฟขนมปังเท่านั้นหรือเต็มที่อาจสั่งพิซซ่า ดิลิฟเวอร์รี่ แต่มื้อเที่ยงหากเป็นคุณแม่บ้านก็จะเข้าครัวกันทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ที่ร้านอาหารส่วนใหญ่จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนเข้าคิวรอ แม้บางร้านจะรอกันเป็นชัวโมงๆเพื่อรอสั่งแค่ ข้าวกับสเต็กเท่านั้น แต่ก็ยังอดทนรอ เพราะเหมือนเป็นธรรมเนียมที่วันอาทิตย์จะต้องออกไปสังสรรค์กับครอบครัวเพื่อทานอาหารนอกบ้านและถือเป็นการพักเข้าครัวหนึ่งวันด้วย
งั้นเริ่มด้วยมื้อเช้าก่อนเลยดีกว่า ถึงแม้เป็นมื้อเล็กแต่ก็สำคัญไม่แพ้มื้ออื่น....
|
Pão |
- Pão (เปา) - ขนมปังก้อนสไตล์ฝรั่งเศษที่อบแบบกรอบนอกนุ่มใน สำหรับบราซิลเลี่ยนแล้ว ขนมปังถือเป็นอาหารประจำชาติอย่างหนึ่ง กินกันแทบทุกวัน ทุกร้านเบเกอร์รี่ หรือ Padaria - ปาดาเรีย จะมีขนมปัง เค้ก ขนมหวาน ช้อกโกแลต แซนวิช กาแฟ เครื่องดื่ม มากมายหลากหลายชนิด จนเป็นที่นิยมสำหรับผู้คนที่ต้องการมาทานมื้อเช้าและมื้อเย็นแบบสะดวกและรวดเร็ว และที่ขาดไม่ได้เลยก็จะคือขนมปังฝรั่งเศษที่ว่านี้แหละ อบขายกันตลอดวัน เพราะเป็นขนมปังที่คนต้องบริโภคทุกวัน ราคาของขนมปังชนิดนี้เลยต้องถูกควบคุมโดยรัฐบาล เพื่อไม่ให้ตามร้านเบเกอรี่โก่งราคาลูกค้าหน้าตาเฉยเหมือนสินค้าอื่นๆ นอกจากผู้คนจะนิยมมาทานที่ ปาดาเรีย แล้ว ก็มีไม่น้อยที่แวะมาซื้อกลับบ้าน ทานกับชีสหรือเนย ดื่มน้ำผลไม้ซักหน่อย นมซักนิด หรือจะเป็นกาแฟใส่นมก็นิยม มื้อเช้าพิเศษหน่อยคือจะมีมะละกอสุกลูกเล็กๆด้วย กินคนละครึ่งลูก(ช่วยระบายได้ดี) แต่ถ้าไปกินที่ปาดาเรียแล้วละก็ ไม่พ้นต้องสั่ง Pão na Chapa หรือขนมปังที่ถูกผ่าครึ่งแล้วเอาไปนาบกับเนยร้อนๆบนกระทะ (Chapa แปลว่า กระทะ) เพื่อให้หอมกรอบอร่อย ถ้าไม่กลัวอ้วนก็เพิ่มรสชาติด้วย ครีมชีส ราดไปบนหน้าขนมปัง ซึ่งกลายเป็น Pão na Chapa Com Queijo (เปา นา ชาปา กง เคโชว) อร่อยแบบหอมๆมันๆ
- Pão de Queijo (เปา จิ เคโชว) - ขนมปังชีส (queijo แปลว่า ชีส) เป็นขนมปังก้อนกลมๆซึ่งอบกับชีส อันนี้กลิ่นชีสจะแรงไปนิด แต่บราซิลเลี่ยนว่าหอม เราก็ต้องว่าหอมตาม!! เป็นที่นิยมมากเหมือนกันเพราะถ้าเป็นก้อนกลมๆเล็ก ยิบคำปากที่ละก้อนทีละคำ ก็เพลินๆดีจนขายดิบขายดี
|
Pão de queijo |
- Queijo (เคโชว) หรือ ชีส - เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในอาหารแต่ละมื้อ คนที่นี้บริโภคชีสหลากหลายชนิด ทั้งชีสแบบกลิ่นอ่อนๆรสอ่อนๆที่พอรับไหว กินเปล่าๆเป็นของว่าง ไปจนถึงชีสแบบที่กลิ่นแรงและรสรุนแรงจนอยากจะ .... (แหวะ) ก็มี อย่าง Blue Cheese เป็นต้น ก็กินกับขนมปัง หรือชีสบางชนิดก็ใช้ในการปรุงอาหาร เพื่อเพิ่มความหอม เค็ม และมัน
จบละมื้อเช้าและเย็น จากนั้นก็ไปมื้อเที่ยงเลย....ง่ายดีเน๊อะ
- Arroz (อาโฮซส์)- ก็คือ ข้าว นั่นเอง คนที่นี่กินข้าวเป็นอาหารหลักนะ เป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ฉั้นอยู่รอดได้สบาย เพราะถึงแม้จะไม่มีข้าวหอมมะลินุ่มละมุน แต่ก็มีข้่าวสารขายมากมาย เค้าก็มีวิธีหุงข้าวของเค้านะ คือ ต้องตั้งกะทะให้ร้อน ผัดหอมใหญ่และกระเทียมสับในน้ำมันมะกอก จากนั้นใส่ข้าวสารที่ซาวแล้ว เติมน้ำประมาณ 2 เท่าของข้าว โรยเกลือปริมาณตามชอบ แล้วตั้งไฟหุงจนสุก ข้าวก็จะมีกลิ่นหอมอบอวลและนุ่มๆเค็มๆมันๆ คนที่นี่ไม่ค่อยมีใครใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าเพราะทำตามขั้นตอนที่ว่าไม่ได้ ฉั้นหิ้วหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่ได้เป็นของขวัญจากแม่ด้วยเหตุผลว่าแม่กลัวลูกสาวจะหุงข้าวแบบไม่เช็ดน้ำไม่เป็น ใครเห็นก็งงว่ามันใช้ยังไง :-D แถมบางทีโดนถามว่าแล้วคนไทยกินข้าวกับอะไร ฮืมมม...แบบว่ากับข้าวเกือบสิบอย่างต่อมื้ออ่ะ(เวอร์ไปนิด) แต่บอกไปแล้วจะตะลึง!! ส่วนฉั้นก็บางทีก็ขโมยสูตรหุงข้าวมาแต่ใช้วิธีลัดด้วยการซาวข้าวในหม้อ ใส่กระเทียมสับ น้ำมันมะกอก แล้วก็เกลือ แล้วก็หุงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า กลายเป็นข้าวมัน อิ๊ อิ๊ ง่าย!!
หลังจากมีข้าวแล้ว กับข้าวของเค้าโดยทั่วๆไปก็ง่ายๆพื้นๆ เช่น ไก่ย่าง ใส้กรอกย่าง เนื้อย่าง สลัดผัก ซุปถั่ว รสชาติก็มีแค่เค็มๆมันๆ เป็นอาหารที่หากินได้ตามร้านอาหารทั่วไป หรือไม่ก็ร้านบุฟเฟ่ต์ที่คิดราคาตามน้ำหนักอาหารที่ลูกค้าตัก ก็เป็นที่นิยมโดยเฉพาะสำหรับคนทำงานออฟฟิศ เพราะสะดวก รวดเร็วและไม่แพง แต่ถ้าให้พูดถึงจานที่เด็ดๆที่เคยลองหรือจานที่ขอแนะนำก็ต้องจานนี้ เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยก่อน
|
Manioc คือ อันเหลืองๆด้านบนนะ |
- Manioc (แมนย็อก)- อันนี้หน้าตาและรสชาติคล้ายมันฝรั่ง แต่ออกจะหวานกว่า เป็นพืชขนิดนึงนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ชุบแป้งแล้วนำไปทอด อร่อยดี
|
Bolinho |
- Bolinho (โบลิงโย่) เป็นอาหารว่างยอดฮิต ที่คนนิยมสั่งเป็นกับแกล้ม กินแกล้มเบียร์ตามบาร์(บาร์ที่นี่จะเป็นบาร์หน้าตาแสนธรรมดาที่เปิดตามมุมถนน นั่งคุยกันสบายๆ) โบลิงโย่จะหน้าตาเหมือนแป้งทอด แต่มีใส้หลายๆอย่างให้เลือก เช่น ใส้เนื้อ กุ้ง ไก่ ปลา(โดยเฉพาะ ปลาเค็ม บาคาเลียว จะนิยมมาก) ใส่ถั่ว เป็นต้น
- Bacalhau (บาคาเลียว) - ปลาเค็มหรือเป็นปลา Cod เค็ม ที่หมักด้วยเกลือจนมีรสที่เค็มปริ๊ด! คือเค็มมากๆๆๆ แต่เป็นที่นิยมสำหรับครัวบราซิลที่นำไปประกอบอาหารยอดนิยมหลายๆจาน แต่ก่อนนำมาปรุงอาหารได้ต้องเอามาล้างน้ำแล้วแช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง แถมไม่ใช่ล้างแค่น้ำเดียวนะต้องล้างหลายๆน้ำเลย ถึงจะนำไปทำอาหารได้ ไม่งั้นมันจะเค็มเกินนนนจนกินไม่ไหวกันเลยทีเดียว อาหารทีเห็นบ่อยๆก็เช่น Bolinho de Bacalhau (โบลิงโย่ จิ บาคาเลียว) - ปลาเค็มบาคาเลียวปั้นทอดกรอบ มีรสชาติเค็มๆมันๆ เรียกแบบภาษาอังฤษก็ คือ Cod Fritter แต่
|
Pastel
Pastel de Bacalhau(พาสเทล จิ บาคาเลียว) - เป็นอาหารพื้นๆแต่เป็นที่นิยมเสิร์ฟเป็นอาหารว่าง พาสเทลที่ขึ้นชื่อที่เค้าว่าอร่อยมากก็ต้องไปเข้าคิวย้าวยาวเพื่อรอซื้อที่ Food Court ชั้น 2 ในตลาด Mercado Municipal ซึ่งเคยเล่าไว้ในโพสต์ ประสบการณ์ทัวร์ประหลาดฯ แล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งก็เป็นแป้งทอดกรอบสอดใส้ ที่ไม่ใช่แค่ใส้ปลาเค็ม บาคาเลียว เท่านั้น ก็ยังมีหลายใส้ให้เลือกอย่างใส้กุ้ง ใส้เนื้อ อีกด้วย
|
- Salada (ซาลัดด้า) เป็นสลัดผักธรรมดา แต่มันถือเป็นอาหารเรียกน้ำย่ายจานหลัก ที่ต้องมีไว้เสมอ น้ำสลัดเห็นมีอยู่สองแบบก็คือ แบบที่ใช้น้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทดำ เพิ่มรสชาติด้วยวีเนกร้าหน่อย กับอีกแบบที่จะเป็นน้ำสลัดที่เติมมะเขือเทศ มะม่วงสุก และหอมใหญ่ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆผสมลงซึ่งจะให้รสชาติหวานๆ อีกอย่างที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มความหรูหรา คือ Palmito พืชชนิดหนึ่งหน้าตาคล้ายหน่อไม้บ้านเรา รสชาติก็จืดๆคล้ายหน่อไม้ เพียงแต่ราคาไม่ได้จืดตามเท่านั้นเอง จึงถือเป็นส่วนเพ่ิมความหรู
มาถึงอาหารจานหลักกันบ้าง จานที่ต้องแนะนำ มีดังนี้
- Strogonoff de Frango/Carne (สตรอ กอ นอฟ จิ ฟรังกุ/คาร์นิ)- กับข้าวของคนที่นี่ ส่วนใหญ่จะทำแค่มื้อละอย่างเดียวก็เอาอยู่ กินกันได้ทั้งครอบครัว จานนี้ถือเป็นจานโปรดของหลายๆคน คล้ายซุปครีมข้นๆ เคี่ยวกับเนื้อไก่ (frango) ไม่ก็เนื้อวัว (Carne)(ที่นี่เนื้อหมูไม่ค่อยเป็นที่นิยมในการทำอาหาร) ใส่เห็ด ซอสมะเขือเทศ มาสตาร์ด และครีมข้น (Creme de Laite) ปรุงรสด้วยเกลือ เสิร์ฟกับข้าวและมันฝรั่งทอดกรอบแบบฝอยๆ รสชาติก็ครีมๆ เค็มๆ มันๆ กินแรกๆไม่ค่อยถูกปากแต่ไปๆมาๆ เริ่มติดใจ ตอนนี้กลายเป็นอาหารจานโปรดไปซะแล้ว
- Steak (สเต็ก) - ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ สำหรับคนบราซิล เนื้อสเต็กถือเป็นที่นิยมมาก มีร้านสเต็กและบาร์หลายร้านให้เลือกไปลองชิม เพราะแต่ละร้านจะมีสเต็กสูตรเด็ดเป็นอาหารจานเด็ดของร้าน เช่น Baby Beef Rubaiyat (เบบี้ บีฟ รูบายยาด), Bom Rini Bar (บงฮินี่ บาร์), Bar do Alemão (บาร์ ดู อาเลอมาว) เป็นต้น เนื้อคัต Picanha (ปิกันญ่า) หรือ Rump Cover Steak เป็นเนื้อคัตส่วน Top Sirloin ของวัวหนุ่ม เป็นที่นิยมมากในแถบอเมริกาใต้ เพราะเค้าลิ้มรสชาติแล้วบอกว่ามันเอร็ดอร่อยกว่าเนื้อคัตส่วน Tenderloin หรือ Fillet Mignon Steak (ฟิเล มิยอง) ซะอีก ก็อร่อยจริงๆ เนื้อนุ่ม ย่างพอสุก รสชาติกลมกล่อม ตามบ้านก็ถือเป็นเมนูที่ต้องทำกันบ่อยๆ แรกๆกินเนื้อเป็นประจำอาจเพราะต้องตามแฟชั่นซักนิดและชื่นชอบรสชาติเป็นการส่วนตัว แต่ระยะหลังต้องงดและขอลดละเลิกไปบ้างเพราะย่อยยาก ไม่ดีต่อกระเพาะและลำใส้ :-( ร้านสเต็กขึ้นชื่ออีกร้าน คือ Baby Beef Rubaiyat อร่อยชนะเลิอออศ
|
Picanha - Bom Rini Bar |
|
Fillet Mignon - Baby Beef Rubaiyat |
|
ข้าวกับสเต็ก - Bar do Alemão |
|
ที่ว่าบางร้าน วันอาทิตย์ต้องรอคิวเป็นชั่วโมงก็เพื่อกินแค่จานเนี่ยแหละ |
- Barbecue / Churrasco (ชูฮาสขุ) - เพราะคนในแถบอเมริกาใต้ชอบกินเนื้อวัวกันมากๆอย่างที่บอก ดังนั้นนอกจากร้านสเต็กแล้ว ยังมีร้านเนื้อย่างแบบบาร์บิคิวหรือบราซิลเลี่ยนเรียก 'ชูฮาสขุ' ซึ่งนิยมสองแบบ คือแบบแรก ปิ้งๆย่างๆกันง่ายๆตามบ้าน สำหรับที่นี่วันดีคืนดีโดยเฉพาะวันอาทิตย์ก็จะมีกลิ่นปิ้งๆย่างๆลอยมาตามลมเป็นสัญญาณให้รู้ว่ามีปาร์ตี้บาร์บิคิวที่ไหนซักทีใกล้ๆบ้านเรา หรือหากใครคิดจะเชิญเพื่อนหรือครอบครัวมากินมื้อเที่ยงที่บ้าน ก็เตรียมตัวได้เลยว่าต้องไม่พ้นปาร์ตี้บาร์บิคิวอาหารรับแขก ธุรกิจ Catering หรือรับจัดเลี้ยงก็ขายดี คนส่วนใหญ่จ่ายตังค์อย่างเดียวเพื่อมาจัดเลี้ยงที่ห้องจัดเลี้ยงที่เกือบทุกคอนโดต้องมีเตรียมไว้ให้ จะได้ไม่ต้องเก็บกวาดเช็ดถูและล้างเองให้เหนื่อย แต่หากไม่เป็นปาร์ตี้บาร์บิคิวที่ว่า อีกแบบหนึ่งก็คือตามร้านเนื้อย่างบาร์บิคิวสไตล์บราซิลเลี่ยน จะคล้ายกับบุฟเฟ่ต์ เนื้อจะถูกหมักอย่างดี นุ่ม และรสชาติกลมกล่อม ย่างกันเห็นๆในเหล็กเสียบขนาดยาว พนง.เสิร์ฟจะเดินถือเหล็กเสียบเนื้อที่ว่านี้เดินเสิร์ฟให้ลูกค้าตามโต๊ะ ความสนุกอยู่ตรงที่ ทางร้านจะแจกป้ายเล็กๆให้ลูกค้าคนละป้ายสำหรับวางไว้บนโต๊ะข้างจานของตัวเอง ป้ายที่ว่าจะมีสองด้าน ด้านสีเขียวจะบอกว่า 'Sim, por favor หรือ Yes, please' ซึ่งหมายถึง ยังไม่อิ่ม โปรดมาเสิร์ฟอีก แต่ถ้าอิ่มแล้ว ก็ให้พลิกกลับเป็นด้านสีแดง 'Nao, obrigado หรือ No, thanks' นั่นเอง พนง.ก็จะหยุดเฉือนเนื้อเสิร์ฟให้เรา เสิร์ฟไปกินไปจนจุก ก็สนุกไปอีกแบบ!! :D
- Feijão (เฟโชว)หรือ Feijoada (เฟโชวอาด้า) - หรือซุปถั่ว ที่ต้องบอกตามตรงว่าไม่โปรด!! แต่เค้านิยมกินเป็นเครื่องเคียงกับอาหารจานหลักหลายๆอย่าง เช่น กินแกล้มกับข้าวและสเต็ก เป็นต้น จะเป็นถั่วขาวหรือถั่วดำก็ได้แล้วแต่ความชอบ ถึงแม้จะอร่อยผ่านการรับรองจากหลายคน และผ่านกระบวนการเคี่ยวงำอย่างดี ปรุงแต่งเพิ่มเติมด้วยเบคอนเพื่อกลิ่นหอมรัญจวน แต่เพราะไม่ชอบกินถั่วเคี่ยวแบบนี้ โดยเฉพาะให้กินถั่วกับข้าวด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกไม่เข้ากั๊นไม่เข้ากัน แต่คนบราซิลกินกันเป็นอาหารหลักคู่กับข้าวกันเลยทีเดียว (ท่าจะตดกันระงมแน่นอน แต่ไม่ขอพิสูจน์ โชคดีที่คุณแฟบก็ไม่ชอบเหมือนกัน!!)
|
Pizza Portuguesa |
- Pizza (พิซซ่า) - โอ้ววว พิซซ่า ไม่อยากจะเชื่อว่าพิซซ่าที่บราซิล อร่อยเหาะ หอมกรุ่น แป้งบางกรอบ รสชาติกลมกล่อม ค้างไว้หนึ่งคืน(เพราะกินไม่หมด) กลับมาอุ่นกินต่อยังอร่อยเหมือนเดิมเลย!! ^^; หน้าโปรตุเกซซ่าเป็นหน้าขึ้นชื่อ มีแฮม ชีส ไข่(ต้ม) หอมใหญ่ ว้าว..อาหย่อย พิซซ่าที่นี่คนบราซิลเชื่อว่าอร่อยกว่าที่อิตาลี่ซะอีก ฉั้นไม่เคยกินที่อิตาลี่ แต่เคยกินร้านอาหารที่มีเชฟอิตาเลี่ยน เทียบแล้ว ขอบอก ว่าที่พิซซ่าที่นี่อร่อยกว่าจริงๆ มีหลายหน้าให้เลือก ร้านพิซซ่าดังๆที่นี่ เช่น Camelo และ Braz คืนวันศุกร์และเสาร์อาทิตย์คนเข้าคิวรอแน่นเอี๊ยดเป็นประจำ แหม่..เชื่อยังว่าคนบราซิลนี่ชอบกินกันจริงๆ
- Porpetone (ป้อปเปอร์โตนี่) - จานนี้ก็ถือเป็นจานเด็ดที่ถ้าไม่ลองรับรองจะต้องเสียใจ เพราะอาหารจานนี้เค้าว่าต้นตำรับจากอิตาลี่แต่เมื่อมาขายที่นี่แล้ว รสชาติกลมกล่อมกว่าจนกลายเป็นตำนานว่าหากินที่ไหนไม่ได้อีกแล้วถ้าไม่มาบราซิล(จริงป่าวไม่รู้ คนแก่เค้าเล่าให้ฟัง) โดยเฉพาะร้าน Jardim de Napoli (จาร์จิง จิ นาโปลี) ถือเป็นต้นตำรับที่คนเนืองแน่น รอคิวโต๊ะกันเป็นชั่วโมงๆ วันเสาร์อาทิตย์ลูกค้ายืนรอแถวยาวตั้งแต่หน้าร้าน ยันชั้น 1 และชั้น 2 ของร้าน หิวจนใส้กิ่วแล้วกิ่วอีก..กว่าจะได้กินจานนี้จานเดียว เป็นเหมือนเนื้อปั้นก้อนทอดสอดใส้ชีสกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยน้ำซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษชุ่มฉ่ำ กัดคำแรกก็หยุดใจไม่ไหวซะแล้วววว
มีอย่างหนึ่งที่น่าสังเกตุ คือ ร้านอาหารที่นี่ส่วนใหญ่ถ้ามีอาหารขึ้นชื่อหรือเป็นร้านชื่อดังมาเนิ่นนาน พนักงานเสิร์ฟส่วนใหญ่จะเป็นชายสูงวัย และชุดยูนิฟอร์มจะสีออก"มอมอ"หน่อย เอ่อ..หมายถึงสีซีดๆจางๆอ่ะนะแสดงถึงคุณวุฒิและวัยวุฒิ สาเหตุอาจมีหลายอย่าง หนึ่ง..อาจเพื่อความน่าเชื่อถือ ว่าเป็นตำนานจริง สอง...อาจเพราะประสบการณ์เยอะ ระดับนี้ไม่มีเสิร์ฟพลาดและให้คำแนะนำลูกค้าได้แม่นยำ หรือสาม..คนที่นี่อาจไม่เปลี่ยนงานกันบ่อยๆ(มั้ง) หรือสี่...ไม่รู้อ่ะ สามข้อที่ว่ามาก็เดาเอา แต่เป็นงั้นจริงๆ ไม่ค่อยได้เห็นพนง.เสิร์ฟหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรากันบ่อยๆนะ ซึ่งก็แปลกดี ส่วนเวลาอิ่มแล้วเรียกเก็บเงิน พนง.ก็จะถือเครื่องรูดบัตรขนาดพอดีมือมาเครื่องหนึ่ง ให้ลูกค้าสอดบัตรเข้าไปในเจ้าเครื่องนี้แล้วก็กดรหัส พอรูดผ่าน สลิปก็พริ้นต์ออกมาทันที ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ไม่ต้องรอเดินไปรูดที่เคาน์เตอร์ สะดวกและรวดเร็วทันใจดีจริงๆ
เฮ้อ..เขียนมาซะยาว เริ่มเหนื่อยและหิวจริง ขอตัวไปหาไรกินก่อนดีกว่า อิ อิ :-D .... แต่อย่าเพิ่งไปไหนนะ เพราะเดี๋ยวมาเล่าต่อ เรื่อง อาหารหวานและเครื่องดื่ม รับรองหลากหลายไม่แพ้กัน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น