สำหรับใครที่ไม่เคยมาบราซิล สำหรับใครที่อยากจะมาเที่ยวบราซิล สำหรับใครที่แค่อยากจะรู้จักบราซิล และสำหรับใครที่ไม่อยากมาแต่จำเป็นต้องมา สาบานได้ ว่าการช้อปปิ้ง ใน บราซิล ก็น่าตื่นเต้นไม่แพ้ที่ไหน!! มีเพียงข้อแม้เดียว อย่าเปรียบเทียบกับสยามสแควร์ แพลตินัม สำเพ็ง หรือสวนจตุจักรบ้านเรา อ้่าว...แล้วถ้าอย่างงั้นมันตื่นเต้นตรงไหน ..... ก็ตรงที่ ของดีมีราคาบ้านเค้า ดีไซน์สวยโพดโพดเลยอ่ะสิ
ที่เซาเปาโลมีตลาดขายของถูกอยู่ที่ย่าน Downtown แถวถนน 25 de março(วินจิซิงกุ จิ มาร์โซ) ซึ่งเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้คนที่ต้องการตัวเลือกเยอะๆ ซื้อทีซื้อเยอะๆ และต่อรองได้ คนจึงแห่ไปที่นี่กันมากมายโดยเฉพาะในวันหยุด คนแน่นเอี๊ยดเดินเบียดเสียดจนต้องระวังทั้งตัวเองและกระเป๋าให้ดี เพราะไม่ได้มีแค่คนปกติอย่างเราๆเท่านั้นที่ไปเดินซื้อของย่านนั้น แต่ยังมีพวกคนติดยา นักล้วงกระเป๋า นักชกชิงวิ่งราว เกลื่อนกลาดอีกด้วย สไตล์การขายของที่นี่ก็เน้นตะโกนโวกเวกให้ตื่นเต้นเร้าใจ ก็มันส์ไปอีกแบบ หรือจะเป็นที่ Liberdade (ลิเบอร์ดาจิ) ใกล้ๆกัน แต่ที่นี่เป็นย่าน Japanese Town ที่คนญี่ปุ่นเค้าเอาของกินของใช้ เครื่องสำอางค์ ของชำร่วย ฯลฯ หลากหลายสไตล์เอเชี่ยนมาขาย ที่นี่เด่นมากคงไม่พ้นเรื่องอาหารสำหรับคนไทยอย่างเรา ถูกใจซะเหลือเกิ้อนที่สามารถไปเดินหาซื้อพวกน้ำพริก กะปิ น้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำจิ้มไก่ ฯลฯ ยี่ห้อไทยๆ ถูกปาก ถูกใจ รวมทั้งข้าวสารและข้าวเหนียวก็ยังมี
แต่ยังไงก็ตาม เราไม่ขอแนะนำการช้อปปิ้งแบบนั้นในโพสต์นี้ เพราะอย่างที่บอก ไปแถว Downtown ต้องเดินอย่างระมัดระวัง มีสติอยู่เสมอ ไม่ใส่เครื่องประดับของมีค่า ไม่ต้องขับรถไป เพราะหาที่จอดยาก ไปรถไฟสะดวกกว่า ดูบรรายากาศซะก่อน
ที่เซาเปาโลมีตลาดขายของถูกอยู่ที่ย่าน Downtown แถวถนน 25 de março(วินจิซิงกุ จิ มาร์โซ) ซึ่งเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้คนที่ต้องการตัวเลือกเยอะๆ ซื้อทีซื้อเยอะๆ และต่อรองได้ คนจึงแห่ไปที่นี่กันมากมายโดยเฉพาะในวันหยุด คนแน่นเอี๊ยดเดินเบียดเสียดจนต้องระวังทั้งตัวเองและกระเป๋าให้ดี เพราะไม่ได้มีแค่คนปกติอย่างเราๆเท่านั้นที่ไปเดินซื้อของย่านนั้น แต่ยังมีพวกคนติดยา นักล้วงกระเป๋า นักชกชิงวิ่งราว เกลื่อนกลาดอีกด้วย สไตล์การขายของที่นี่ก็เน้นตะโกนโวกเวกให้ตื่นเต้นเร้าใจ ก็มันส์ไปอีกแบบ หรือจะเป็นที่ Liberdade (ลิเบอร์ดาจิ) ใกล้ๆกัน แต่ที่นี่เป็นย่าน Japanese Town ที่คนญี่ปุ่นเค้าเอาของกินของใช้ เครื่องสำอางค์ ของชำร่วย ฯลฯ หลากหลายสไตล์เอเชี่ยนมาขาย ที่นี่เด่นมากคงไม่พ้นเรื่องอาหารสำหรับคนไทยอย่างเรา ถูกใจซะเหลือเกิ้อนที่สามารถไปเดินหาซื้อพวกน้ำพริก กะปิ น้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำจิ้มไก่ ฯลฯ ยี่ห้อไทยๆ ถูกปาก ถูกใจ รวมทั้งข้าวสารและข้าวเหนียวก็ยังมี
แต่ยังไงก็ตาม เราไม่ขอแนะนำการช้อปปิ้งแบบนั้นในโพสต์นี้ เพราะอย่างที่บอก ไปแถว Downtown ต้องเดินอย่างระมัดระวัง มีสติอยู่เสมอ ไม่ใส่เครื่องประดับของมีค่า ไม่ต้องขับรถไป เพราะหาที่จอดยาก ไปรถไฟสะดวกกว่า ดูบรรายากาศซะก่อน
ระหว่างรอแม่เอาตั๋วไปเปลี่ยน ยังติดอยู่โซนนอก หวั่นๆยัยเจ๊คนข้างหลัง แต่ก็ยังฝืนยิ้ม ^^' |
ตอนตั๋วรถไฟรูดไม่ผ่าน ดูหน้าสิ ตกใจนะน่ัน ฮ่าาๆๆ!! |
โพสต์นี้เลยขอแนะนำให้มาลองช้อปของดีมีราคากันดีกว่า ลองดูว่าจะถูกใจรึป่าว เพราะที่บราซิลไม่มีสินค้าลอกเลียนแบบและก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยมซะด้วย คนที่นี่ก็ช้อปปิ้งกันในห้างสรรพสินค้าทั่วไป ถ้าใครที่มีรายได้ดีหน่อย ก็จะมีรสนิยมดีมาก พูดง่ายๆพวกที่มีสตังค์ จะทันสมัย ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม เครื่องประดับ เนี๊ยบกริบตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งกระเป๋า รองเท้า ยี่ห้อดีๆดังๆหลายๆยี่ห้อ คุณภาพดีและดีไซน์สวย เป็นที่นิยมไม่แพ้แบรนด์นอก แต่ละคนจะประโคมแต่งตั้งแต่หัวจรดเท้า และหากต้องการอวดความมีสตังค์มากขึ้นอีก ก็จะทุ่มไม่อั้นกับบรรดาของสินค้าแบรนด์นอก เช่น Louis Vuitton, Gucci, CHANEL, .... จิวเวอร์รี่ Tiffani&Co หรือแม้แต่นาฬิกาแพงๆ ยี่ห้อต่างๆ ที่สำคัญที่นี่มีระบบผ่อนด้วย เพราะไม่มีของเลียนแบบให้ซื้อ การดาวน์ก่อนผ่อนที่หลังแบบไม่มีดอกเบี้ย จึงเป็นวิธีที่ช่วยได้เยอะเหมือนกันเน๊อะ ว่ามั้ย? ^^
เอาล่ะ ถ้าจะช้อปปิ้งในบราซิล ก็แนะนำให้มาที่เซา เปาโลนี่ล่ะ แล้วก็ต้องเตรียมเงินมาเยอะๆหน่อยนะ เพราะที่บราซิล ข้าวของแพงน่าดู แพงกว่าเมืองไทยเป็นสองถึงสามเท่าแน่ะ โดยเฉพาะของอิมพอร์ต (ค่าเงินที่นี่ 1 Reais = 19 THB++) แถมประชาชนตาดำๆ เขียวๆ ก็ไม่รู้ซะด้วยว่าไอ้ข้าวของที่แพงๆนั้น เราจ่ายภาษีสินค้า (Goods & Services Tax) อยู่เท่าไร นั้นหมายถึงว่า ไม่ว่าสินค้าจะต้นทุนเท่าไร ส่วนเกินที่เราจ่ายไป ไปเข้ากระเป๋าใครอ่ะ!! และที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่มาช้อปปิ้งที่นี่ก็ไม่สามารถเคลม Tax refund เวลาเดินทางออกจากบราซิลได้เหมือนประเทศอื่นๆอีกด้วย อืมม...ทำให้พอมาอยู่เข้าจริงๆต้องประหยัดอดออมมากกว่าจะไปช้อปปิ้งใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่เหมือนเวลาเที่ยวที่เราจะเตรียมสตังค์มาเต็มกระเป๋าแล้วก็ค่อยกระเป๋าแห้ง หน้าแห้งกลับบ้าน แต่เอาเถอะ ถ้านานๆได้มาที่ลองมีประสบการณ์ช้อปกระหน่ำดูบ้าง จะรู้ว่ามันดีอย่างนี้นี่เอง
คนที่อยู่ที่เซา เปาโล จะเรียกตัวเองว่า Paulistana(ผู้หญิง) และ Paulistano(ผู้ชาย) ความหมายประมาณว่าเป็นคนเมืองเต็มตัว เพราะฉะนั้นถ้าเที่ยวแบบคนเมืองก็ต้องรู้ว่า แหล่งช้อปปิ้งที่นี่มีมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า และร้านค้าเลียบถนนหลายๆเส้น เช่น Paulista (เปาลิสต้า), Moema (โมเอม่า), Rua Oscar Freire, Jardim (จาร์จิง), Itaim (อิตาอิง), Brooklin (บรู้คคลิน), Pinheiros (ปิงเยยโรส) เหล่านี้ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญ จริงๆแล้วมันคือชื่อถนนแต่ละสายและเป็นย่านธุรกิจ และเพราะเป็นย่านธุรกิจนั่นเองเลยมีร้านค้ามากมายตามไปเปิด Paulista, Moema และ Rua Oscar Freire, Jardim (จาร์จิง) จะเป็นโซนแฟชั่น มีทั้งร้านร้องเท้า เสื้อผ้าแบรนด์ใน แบรนด์นอก ดูคล้ายกับแฟชั่นสตรีท Jardim, Itaim, Brooklin, Pinheiros จะเน้นพวกร้านเฟอร์นิเจอร์ของประดับตกแต่งบ้าน เครื่องครัว เครื่องนอน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ส่วนห้างสรรพสินค้าก็มีมากมายหลายห้าง แต่ขอแนะนำแค่บางห้างที่น่าไปก็พอ เพราะที่นี่ ข่าวปล้นห้างมีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ หรือไม่ก็มีฉก ชิง วิ่งราว บางที่จึงอาจต้องเดินแบบเหลียวหน้าพะวงหลังกันซักนิด ไม่เว้นแม้แต่ห้างหรูๆ ระดับ hi-end วันดีคืนดีก็มีข่าวโจรกรรมร้านเพชรบ้าง ร้านทองบ้าง ให้ได้ผวากันเล่นๆ ห้างหรูๆบางห้างจึงต้องมี Security Guard คอยตรวจตราดูแลกันทีเป็นหลายสิบนายเลยทีเดียว!
- Shopping Pátio Higienópolis (พัททิโอ้ อีเจียนนอปอลิศ) เป็็นห้างเล็กๆตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย Higienópolis ถือว่ามีระดับโซนหนึ่งเลยนะ แถวนี้จะเรียกว่าเป็นแหล่ง Community ชาวยิวก็ว่าได้ เพราะพวกเค้าอพยพมาตั้งรกรากกันตั้งแต่สมัยสงครามโลกนู้น (พอกับคนญี่ปุ่นที่มาตั้งรกรากในบราซิลตั้งแต่สมัยสงครามโลกเหมือนกัน คนญี่ปุ่นในบราซิลจึงมีเยอะพอสมควร เยอะจนพอที่จะทำให้คนบราซิลสับสนว่าคนเอเชียก็คือคนญี่ปุ่นนั่นแหละ เพราะไม่รู้จักประเทศอื่นๆในเอเชียอีกแล้ว ใครๆที่มาจากเอเชีย จึงกลายเป็น "ญี่ปุ่น" หมดในความคิดของคนบราซิล รวมทั้งฉั้นด้วย อยู่นี่ก็เป็นคนญี่ปุ่น ไฮ้!! -_-') คนแถวนี้ค่อนข้าง Conservative และอาจมีอายุหน่อย อยู่กันเป็นครอบครัว เป็นโซนปลอดภัยโซนหนึ่ง สภาพแวดล้อมดี มีโบสถ์ มีโรงเรียน มีร้านอาหารมากมาย ในบางครั้งบางทียังเห็นผู้ชายเดินใส่สูท สวมหมวกสีดำ แบบชาวยิวเดินไปเดินมาอยู่เลย แต่หนุ่มๆสาวๆแถวนี้ก็มีเยอะ ภายในห้างก็มีร้านค้าแบรนด์ดีๆของบราซิลหลายแบรนด์ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟดีๆหลายร้าน น่าเดินทีเดียว
ช่วงคริสต์มาส ตกแต่งอลังการ |
- Morumbi Shopping Mall (โมรุมบี ช้อปปิ้ง มอลล์) ย่าน Morumbi (อันนี้อยู่ใกล้บ้าน ว่างๆก็ขับรถไปเดินเล่น ไม่เกินสิบนาทีก็ถึง) ถือเป็นห้างใหญ่ห้างหนึ่งเลยทีเดียว แต่ที่ว่าใหญ่ ก็ยังเล็กกว่าพารากอนหรือเซ็นทรัลลาดพร้าวซะอีก แต่ก็คนเยอะ ร้านเยอะ ร้านอาหารก็เยอะใช้ได้ วันเสาร์อาทิตย์ที่ไรคนแน่นไม่แพ้เซ็นทรัล เดอะมอลล์ ที่นี่มีร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ฯลฯ สำหรับทั้งชาย ทั้งหญิง และสำหรับเด็ก ขึ้นชื่อ คือ C&A และ Renner คู่แข่งกัน ดีไซน์ดูดีและราคาพอจับจ่ายไหว ได้ยินว่า สาวๆออฟฟิศแอบมาช้อประหว่างพักกลางวันกันที่นี่ล่ะ(คล้ายสาวออฟฟิศบ้านเราที่มักจะเหงื่อแตกกลับเข้าออฟฟิศหลังจากดอดไปช้อปแถวสีลม ซอยละลายทรัพย์ หรือตลาดนัดข้างออฟฟิศ ฯลฯ แล้วกลับมาพร้อมถุงสัมภาระซ่อนมาด้านหลังเพื่อแอบไม่ให้เจ้านายเห็น ไม่มีผิดเพี้ยน แหม่..พูดแล้วยังคิดถึงบรรยากาศ) สไตล์คล้ายๆกับ Forever21 ในอเมริกา, Primark หรือไม่ก็ Westfield ในอังกฤษ อะไรอย่างงั้น (ฉั้นไม่เคยไปอังกฤษหรือเมริกาหรอก คริ คริ!) คิดว่าร้านแบบนี้ไม่มีในบ้านเรานะ แบบที่เข้าไปจะเห็นเสื้อผ้า ร้องเท้า เครื่องประดับ ดีไซน์สวยๆ เต็มไปหมด แบ่งเป็นโซนและ Collection เช่น โซน ชาย-หญิง, โซนสไตล์ Vintage, Jeans, Office Clothes, โซน Jewelry, Shoes, Swimming Suites, Gym&Exercise ....... อารมณ์ประมาณโซนพลาซ่าในห้างบ้านเรา แต่พอเดินเข้าไปก็ไปหยิบถุงใบใหญ่ทีเค้าเตรียมไว้ให้ ชอบใจก็หยิบใส่ถุงแล้วไปจ่ายตังค์ทีเดียว (ส่วนตัวชอบเสื้อผ้าของ Renner นะ แต่เครื่องประดับเหมือนที่ C&A จะสวยกว่า) เค้าว่าคุณภาพดีด้วย ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันคนละฝั่งของห้าง แข่งกันสุดฤทธิ์
- Shopping Iguatemi Sao Paulo (อีกวาเตมี) ห้างนี้ขยับหรูขึ้นมาอีกนิดเพราะมีร้านแบรนด์นอกอย่าง Louis Vuitton, Gucci, Prada ฯลฯ และแบรนด์ไฮโซดังๆของบราซิล เช่น ร้านกระเป๋าหรูๆ อย่าง Lenny e Cia (เลนนี่ อี เซีย), ร้านเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ สไตล์ไฮโซ อย่าง Le Lis Blanc (เลอ ลีส บลองซ์) , ร้านกระเป๋า รองเท้าหนังแท้ คุณภาพดี อย่าง Arezzo (อารีโซ่) เป็นต้น รวมทั้งร้านเครื่องประดับอีกหลายร้าน ไม่น่าเชื่อว่าเครื่องประดับที่นี่ก็ดีไซน์สวยล้ำ (ไม่ขอพูดถึงราคาให้ตกใจ) อย่าง H.Stern และ Vivara ก็ดีไซน์สวยหรู แพงได้ใจ มีทั้งเพชรทั้งทอง ให้ได้ผ่อนสะใจกันไป แถมพนง.ยังพูดภาษาอังกฤษได้ซะด้วย (บอกรึยังว่าคนที่นี่ก็นิยมใส่เครื่องประดับกันมากๆ) ห้างนี้มีซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารดีๆ รวมไปถึง Drug Store ที่หน้าตาเหมือน วัตสัน หรือ บูธส์ อีกหลายร้าน
- Shopping Cidade Jardim (ซิดาจิ จาร์จิง) ห้างนี้ถือว่าหรูที่สุดใน เซา เปาโล ไฮโซอย่างเราไม่พูดถึงที่นี่คงไม่ได้ อิ อิ อยู่โซน Cidade Jardim ศูนย์รวมแบรนด์ดีๆดังๆ ละลานตา แต่ละร้านตกแต่งอย่างหรูหรา ทั้ง Louis Vuitton, CHANEL, Hermès, ..... อุ้ย เลิศศศศ ภายในห้างก็บรรยากาศดี ห้างไม่ใหญ่โตอะไรมากแต่เพราะตกแต่งแบบ Open Air เลยทำให้ดูดีมีเอกลักษณ์ หลังคาเปิดโล่ง แต่มีหลังคาไฮโดรลิกสำหรับปิดเวลาฝนตกหรือเวลาห้างปิด ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี เหมือนกับนั่งอยู่ในสวนยังไงยังงั้น ซึ่ง Concept นี้ก็ได้มาจากคำว่า Jardim ซึ่งแปลว่า สวน แต่ก็ไปแอบเห็นห้างแบบนี้ที่ ไมอามี่ มาเหมือนกัน เหมือนเป๊ะ หลายคนเลยว่าบราซิลคงก๊อปไอเดียนี้มาจากห้างห้างนึงในไมอามี่, สหรัฐอเมริกามากกว่า ก็ว่ากันไป ที่นี่บางทีก็มีงานอีเว้นท์ที่เหล่าดารามารวมตัวกันอยู่เป็นระยะ จัดงานทีเห็น Security Guard เต็มห้างไปหมด นอกเหนือจากนั้น ของแถมกิ๊บเก๋ในการเดินเล่นที่นี่ก็คือมี WiFi ให้เล่นฟรีทั้งห้าง แม้จะไปยากนิดนึง เพราะทางไปไม่มีป้ายบอกทาง ตอนไปครั้งแรกเจอทางแยกไม่รู้ต้องเลี้ยวซ้ายหรือขวา เลี้ยวผิดกลายเป็นทางกลับบ้านไปซะงั้น และในเซา เปาโล คนขับรถกันเร็วมาก แถมถนนบ้านเค้าไม่มียูเทิร์น เลยแล้วก็เลยไปเลย ต้องไปหาที่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาตามตรอกซอกซอยเอาเองถึงจะกลับมาที่เดิมได้ ครั้งนั้นก็เลยกลับบ้านไปเลยดีกว่า งง! ดีที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านวันหลังเลยค่อยมาใหม่ อ้อ..จุดเด่นอีกอย่างคือที่นี่มีโรงหนังไฮโซดูดีทีเดียว ห้างก็คนไม่แน่นเกินไปด้วย
ด้านหน้าเป็นห้าง ด้านบนเป็นคอนโดหรู |
Hermès |
Hermès |
Louis Vuitton |
ถ่ายมายั่วน้ำลายเล่นๆ |
Daslu (แดซซะลู) ร้านอิมพอร์ตเสื้อผ้า ของดีไซเนอร์แบรนด์ดังๆ |
ร้านกาแฟเก๋ๆ |
ร้านอาหารหรูๆ |
ร้านหนังสือเท่ห์ๆ |
ร้านขายของเล่น ขำๆ (ขายพวกเรือยอร์ชกะเจ็ทสกี!!) |
ยังมีอีก 2 ที่ที่น่าเดินเหมือนกัน ก็คือ Shopping Ibirapuera (ช้อปปิ้ง อีบิราโปเอร่า) ห้างนี้ใหญ่เหมือนกัน และ Shopping Vila Olimpia (วิลล่า โอลิมเปีย) เล็กลงมาหน่อย แต่ก็เป็นที่นิยมไม่น้อยเพราะอยู่ในแหล่งใกล้ออฟฟิศบิวดิ้ง
สำหรับสาวๆ ถ้ามาช้อปที่บราซิลคงต้องขอแนะนำให้พิจารณะกระเป๋ากับรองเท้าเป็นพิเศษ เพราะนอกจากดีไซน์สวยแล้ว วัสดุที่ทำจะเป็นหนังแท้ทนทาน ใส่ดีไม่มีกัด คนที่นี่คลั่งใคล้รองเท้ามาก ขนาดรองเท้าแตะยังดีไซน์สวยเลยอ่ะ
Havaianas(ฮาวายยานัส) เป็นแบรนด์รองเท้าแตะของบราซิลเอง ราคาคู่ละประมาณ 800-1,000 บาท ++ ถ้าขายในเมืองไทย ถ้าที่นี่ราคาก็ครึ่งนึง แต่ก็ไม่ถือว่าถูกถ้าเทียบกับช้างดาวหรือนันยางของไทย! แต่มีสไตล์และดีไซน์เก๋ไก๋เฉพาะตัว เท่ห์ไม่ซ้ำใคร เป็นที่นิยมมากสำหรับใส่คู่กับบิกินี่เก๋ๆเวลาไปเที่ยวทะเล หรือจะซื้อเก็บเป็น Collection ก็น่ารักไปอีกแบบ
Shoestock ร้่านนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเป็นร้านขายรองเท้าขนาดใหญ่ มีให้เลือกให้ลองเป็นพันๆคู่ มีทุกไซส์ ทุกแบบ ทุกสี ทุกราคา วางขายเป็นเบือ......ใช้คำว่า "เบือ" เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง เพราะที่นี่จะวางแยกตาม ไซส์ เริ่มตั้งแต่ ไซส์ 33-41(โดยประมาณนะ) ไซส์นึงก็มีให้เลือกหลายร้อยแบบ หลายร้อยสี หลายร้อยสไตล์ เรียกว่าสาวๆเข้าร้านนี้ต้องใช้เวลาเป็นวันกว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะซื้อซักกี่สิบคู่ดี เลือกได้ก็ใส่ถุงใบใหญ่ไว้รอจ่ายตังค์ที่เคาน์เตอร์ สาวๆบางคนซื้อเต็มถุงเลยทีเดียว
Santa Lolla ยี่ห้อนี้ก็สวย ทันสมัย ถูกใจฉั้นมาก เป็นร้านคล้าย Shoes Stock ตั้งอยู่ติดถนนตามทำเลใกล้แหล่งธุรกิจหรือออฟฟิศบิวดิ้งโซนต่างๆ เวลาพักเที่ยงที ก็สะดวกสำหรับสาวๆออฟฟิศที่มาเดินย่อยหลังอาหารเที่ยง แวะมาลองรองเท้า ถูกใจอาจซื้อติดไม้ติดมือไป(โดยไม่รู้ตัว) ในร้านก็จะมีทุกไซส์ ทุกแบบ ทุกสี เหมือนกัน เพียงแต่ขนาดร้านจะไม่ใหญ่เท่ากับ Shoes Sock เท่านั้นเอง
ถัดมาเป็นแบรนด์ขึ้นห้าง เช่น Capodarte (คาโปดาร์ทชิ) และ Arezzo (อรีโซ่) เป็นรองเท้าและกระเป๋าแบรนด์บราซิล ที่ขายดีและดีไซน์สวยเป็นที่นิยมเช่นกัน
Capodarte |
Arezzo
Lenny e Cia (เลนนี่ อี เซีย) เป็นกระเป๋าดีไซน์เนอร์ชื่อดังของบราซิล ราคาสูงเอาการอยู่ แต่ดีไซน์สวยหรูเหมาะกับสาวไฮโซอย่างเรา คริ คริ! แต่กระเป๋าบางรุ่นที่ทำจากหนังและวัสดุโลหะจะหนักอึ้งอยู่ ซึ่งก็เป็นข้อเสียเล็กๆน้อยๆ
Le Lis Blanc (เลอ ลิซ บลองซ์) เป็นร้านขายเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ สวยและแพง แต่ใครที่ชื่นชอบและใช้ของแบรนด์นี้ ก็ถือว่าเป็นคนมีรสนิยม! ^^
นอกจากนั้นก็มีแบรนด์สำหรับผู้ชายที่เป็นที่นิยมด้วย เห็นสองแบรนด์เด่นๆ ก็คือ Richards กับ Brooksfield เพราะช่วงคริสต์มาสทีไร ขายดิบขายดี คนแน่นร้านเพราะแห่ไปซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ เป็นของขวัญให้แก่กันและกัน แล้วก็เห็นให้กันซำ้ไปซำ้กันทุกปี ไม่เสื้อก็ร้องเท้า เหอะๆ..ก็น่ารักไปอีกแบบ
รองเท้าผ้าใบผู้ชาย Brooksfield แอบไปฉกมาหนึ่งคู่ |
จริงๆยังมีอีกหลายห้าง หลายแบรนด์ แต่เอาแค่หอมปากหอมคอก็พอ...
อ้อ..สาวๆที่นี่ก็คลั่งใคล้ Louis Vitton ไม่แพ้คนชาติใดในโลกเหมือนกัน เห็นถือกันให้เกลื่อนเมืองเลย พวกเครื่องประดับ ก็ไม่น้อยหน้า เพชรนิลจินดา ประโคมกันแบบสุดๆ
ที่สำคัญ คนที่นี่ตัดสินคนที่ นาฬิกา ยิ่งเรือนใหญ่ยี่ห้อดังยิ่งแสดงว่ามีสตังค์!!
แม้ที่นี่ยังมีความแตกต่างทางสังคมให้เห็นอย่างชัดเจนและพวกเค้าก็จงใจทำให้มันเป็นอย่างนั้น บางคนประโคมแต่งเค้าไปจนอาจดูเยอะเกิน ทั้งที่รู้ดีว่าการโจรกรรมก็มีเกลื่อนเมืองและก็แอบห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ก็ใส่นาฬิการาคาแพงๆเรือนเบ่อเริ่มหรือทองหยองเต็มตัวล่อตาล่อใจกันซะอย่างงั้น เห็นแล้วเสียวแทนจริง จริ้ง.... แต่ก็มีเหมือนกันที่มาแบบไม่สนใจใคร เอวลอย พุงหลาม ขาสั้นโชว์เซลลูไลท์ หรือฟิตเปรี้ยะมาเลยก็มี และไม่เห็นว่าพวกเค้าจะอายหรือใส่ใจไรมาก แต่สำหรับฉั้น...ขอมีจุดยืนเป็นของตัวเอง เชื่อว่าอะไรที่ไม่มากไปไม่น้อยไป คือ สิ่งที่ดีที่สุด (ดูดีมั้ย? คือ จริงๆแล้ว งง ไม่รู้จะไปทางไหนขอยืนมันอยู่ตรงกลางนี่ล่ะ!!) แล้วก็แอบทำตัวเป็นฝ่ายสังเกตุการณ์ เอามาเล่าสู่กันฟัง... ^^!
อุ้ย ชอบหน้านี้จังพี่ก้อยเขียนมันส์มากเลยค่ะ
ตอบลบรองเท้าจ๋วยอ่าาาาาาาาาาาาาาา เห็นแล้วอยากได้ๆๆๆ แต่ราคาแพงหูฉี่ชัวร์ไม่น่าซื้อได้ แต่แปลกนะคะ เค้าตั้งราคาสูงจัง ไอ้ที่แพงคือภาษีใช่ไหมคะ? หนูงงมากเลย อย่างนี้ก่ได้ภาษีเยอะสิ แล้วมันไปไหนหมดอ่ะ?? เพราะว่าความแตกต่างของคนมันต่างกันมากจริงๆ อดสงสัยไม่ได้
รองเท้าอย่างถูกๆก็ประมาณ 89R เป็นไทยบาทก็คงประมาณ 1600 บาทได้แล้วค่่ะ ถูกมั้ยเนี่ย! ไม่รู้มันไปไหนเหมือนกันภาษี เดี๋ยวนี้พี่ก็ไม่ค่อยช้อปบ่อยแล้วค่ะเสียดายตังค์
ลบเป้าหมายใหญ่เลยค่ะเรื่องชีอปนี่เดี๋ยวไปคราวนี้จะขอสอยกระเป๋ามาสักใบเอาแบรนด์ของบราซิลนี่แหละขอบคุณข้อมูลคุณก้อยค่ะ Budsakorn Whyte บุษ
ตอบลบตามสบายเลยค่ะ เสื้อผ้าหลายๆยี่ห้อก็สวยค่ะ ราคาแพงหน่อย แต่สวยค่ะรับรอง
ลบ