Pages

วันศุกร์, มกราคม 20, 2555

รับมือกับคนเย่อหยิ่ง

ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ มีโอกาสได้เข้าสังคม(เล็กๆ)ได้พบปะผู้คนมนุษย์มนากับเค้าอยู่บ้าง โชคไม่่ดีที่บางครั้งดันต้องเจอคนประเภทหนึ่งที่ไม่ค่อยอยากจะเจอ แต่ก็โชคดีอยู่นิดนึงก็คืออย่างน้อยก็ได้เรียนรู้ผู้คนและการแสดงออกบางอย่าง จะว่าไปที่นี่ก็มีผู้คนหลากหลายประเภทเหมือนกับทุกที่ในโลก แต่ประเภทที่อยากขอพูดถึง คือ คนที่ออกแนวเย่อหยิ่ง หลงตัวเองนี่แหละ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะเจอมากะตัว ช่างเหมือนในละครเปี๊ยบ แบบว่าโดนมองหัวจรดเท้า ไม่พูดไม่จาด้วยทั้งที่ร่วมโต๊ะอาหาร ไม่แสดงการต้อนรับขับสู้เมื่อพบปะเยี่ยมเยียน  ตั้งประเด็นคำถามแบบไม่น่าคุยต่อ ทำท่ารังเกียจเดียดฉันท์ และดูถูก ดูเหมือนพยายามแสดงให้คนอื่นรู้สึกว่าตัวเองมีดีกว่า รวยกว่า เริ่ดกว่า อะไรประมาณนั้น บางครั้งก็แสดงเหมือนว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก ทั้งที่ไม่เคยใส่ใจสาระทุกข์สุกดิบของใครอย่างจริงใจ หรือทั้งที่เพิ่งผ่านเรื่องราวอันเจ็บปวดมา เจอความเฟคแบบนี้บ่อยๆเข้า มันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ

ใช่...หนึ่งปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เอือมระอาสุดๆ เมื่อต้องรับมือกับคนประเภทนี้ มารู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อก็ตอนที่รู้สึกว่าตัวเองจิตตก หดหู่ ทุกครั้งที่ต้องเจอและได้รับการต้อนรับแบบไม่ต้อนรับอยู่เสมอ ทั้งที่ไม่เคยทำอะไรให้ซักหน่อย และหลังจากผ่านระยะเวลาหนึ่งในการพยายามสร้างความเป็นมิตรด้วยแต่กลับไม่เป็นผล จึงถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจว่าการไม่ต้องพบปะคนประเภทนี้อีกน่าจะทำให้ชีวิตและจิตใจเป็นสุขขึ้นเยอะ แต่เพราะความใฝ่รู้ใฝ่ศึกษาของฉั้น (หรือภาษาชาวบ้านเรียกอยากรู้อยากเห็นอ่ะนะ!) มันไม่ค่อยเข้าใครออกใคร มันยังคงเคลือบแคลงสงสัยและเลิกคิดไม่ได้ว่าอะไรที่เป็นแรงดลใจให้คนเราแสดงออกแบบนั้นได้อย่างไม่รู้สึกว่ามันออกจะดูแปลกๆอยู่ ฉั้นเริ่มค้นหาคำตอบว่าเค้าหรือเรากันแน่ที่เป็นอะไรมากไปป่าว!! จะเป็นพวกรักความสมบูรณ์แบบเหรอ หรือ เป็นพวกมองโลกในแง่ร้าย หรือเราคิดมากไปเอง และแล้วฉั้นก็ไปค้นพบบทความอันหนึ่งที่พูดถึงคนประเภทที่เรียกว่า Arrogant People อ่านจบฉั้นก็พบว่า มันใช่เลย ทั้งลักษณะท่าทางและอาการต่างๆ 

ในบทความบอกไว้ว่า จะสังเกตุได้จากอะไรบ้างที่จะทำให้รู้ว่าคนคนนั้นเป็นคนประเภท Arrogant People หรือคนเย่อหยิ่ง หลงตัวเอง;
  1. พูดถึงแต่ตัวเอง ห่วงภาพลักษณ์ตลอดเวลา จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นจุดสนใจ และไม่ชอบให้ใครมาทำลายภาพลักษณ์ของตัวเอง ไม่ว่าด้วยวิธีใด เพราะคิดว่าตัวเองมีดีกว่า เหนือกว่าคนอื่น
  2. หากรู้ว่าพวกเค้าอาจเพิ่งผิดหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมา ให้สังเกตุว่าพวกเค้าอาจแสดงออกในทางตรงกันข้าม เพื่อเก็บซ่อนความเจ็บปวดและให้ใครๆเห็นว่าตัวเองยังเพรียบพร้อมสมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติอยู่ ก่อนไปถามไถ่อะไรก็ดูทิศทางลมให้ดี เพราะไม่แน่ว่าการไปแสดงความเป็นห่วงเป็นใยอาจกลับกลายเป็นการทำลายภาพลักษณ์เค้าเข้าได้โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจจะได้เห็นอาการโมโห ฉุนเฉียว โกรธเกรี้ยวขึ้นมาแทนก็เป็นได้
  3. ลองดูวิธีที่พวกเค้าปฏิบัติต่อคนอื่น บางครั้งอาจใส่ใจใครมากเกินความจำเป็น แต่กับบางคนอาจโดนมึนตึงใส่ คนประเภทนี้จะมีทัศนคติ 'my-way's-the-only-way' attitude คือ ทำตามวิธีของฉั้นเท่านั้นหรือพวกชอบเผด็จการ เพราะไม่ชอบให้ใครมีคำถามเกี่ยวกับเหตุผลหรือความคิดแท้จริงที่ซ่อนอยู่
  4. บางทีก็แสดงออกอย่างคนแสนดี เช่น ชวนคุยไม่หยุดบ้าง ร่าเริงแจ่มใสกว่าปกติบ้าง หรือแสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดีมากๆบ้าง เพราะรู้ว่านั่นจะทำให้ตัวเองดูดี แต่ถ้าไม่ชอบใจใครขึ้นมา สบโอกาสเมื่อไรเป็นต้องแสดงความร้ายกาจใส่ อาจด้วยการโจมตีจุดอ่อนหรือไม่ก็อาจชวนทะเลาะสร้างความร้าวฉานเล่นๆ การทำให้คนอื่นดูด้อยลงหรือทำให้คนอื่นไม่มีความสุขก็ถือเป็นวิธีหนึ่งในการระบายความโกรธเกรี้ยวในความไม่สมบูรณ์แบบหรือความผิดหวังบางอย่างของตัวเอง เพื่อนหรือคนใกล้ชิดก็ไม่ค่อยกล้าห้ามปรามหรอกเพราะไม่อยากต้องเผชิญกับความร้ายกาจนั้นซะเองเหมือนกัน
  5. ลองเอ่ยถึงเพื่อนหรือใครที่คิดว่าพวกเค้าไม่ชอบหน้าดูสิ แล้วสังเกตุว่าพวกเค้าจะวิจารณ์ได้อย่างรุนแรงเกินกว่าเหตุ หรือคนที่เค้าคิดว่าเป็นคู่แข่งหรือเป็นศัตรู ยิ่งไม่ชอบมากจะยิ่งวิจารณ์รุนแรงมากเหมือนไม่ต้องการอยู่ร่วมโลกกันเลยว่างั้น 
  6. พวกเค้าจะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่มีความสามารถในการรักษามิตรภาพที่ดีให้จีรังยั่งยืน เพราะเป็นคนต่อหน้าอย่างลับหลังอีกอย่าง และไม่เชื่อว่ามิตรภาพที่ดีมีอยู่จริง แต่ก็สร้างภาพลักษณ์ว่ามีเพื่อนเยอะ แต่ก็มีแต่ปริมาณนะ หาคุณภาพไม่ค่อยได้!
คำแนะนำจากบทความก็คือ 
  • อยู่ห่างๆคนประเภทนี้ไว้ซะ เพราะเค้าจะสามารถสร้างความเจ็บปวดและหดหู่ใจให้เราได้อย่างแสนสาหัส
  • ทำความเข้าใจกับตัวเองให้แน่ใจว่าตัวเราเองไม่ใช่คนประเภทนั้นซะเอง และไม่ได้ตัดสินใครด้วยความอคติ
  • หากจำเป็นต้องพบปะ จำไว้เลยว่าคนประเภทนี้มีบางอย่างที่พวกเค้าพยายามปกป้องไว้เสมอ ไม่ 'ภาพลักษณ์ตัวเอง' ที่ต้องไม่ด้อยไปกว่าใคร ก็ 'ความโดดเด่นเป็นจุดสนใจ' พยายามอย่าใส่ใจ หรือพูดอะไรมากมาย เพราะพวกเค้าไม่ชอบให้ใครตั้งแง่
  • อย่าไปแข่งขันกับพวกเค้าเลย เพราะจริงๆแล้วการจะเย่อหยิ่งอย่างนี้ได้ ก็ต้อง 'มีดี' อะไรบางอย่าง หรือหลายอย่างอยู่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเค้าจะปฏิบัติกับใครต่อใครอย่างดีเสมอไปนะ นอกจากพวกเค้าจะเจอคนที่อาจรวยเหมือนกัน, ดูดีเหมือนกันกัน, เก่งเหมือนกัน หรือ มีเสน่ห์จอมปลอมคล้ายๆกัน หรือเรียกว่าคุณสมบัติเสริมกันเท่านั่น  
  • คนประเภทนี้โกรธง่าย และหายยากด้วย แถมถ้าใครทำให้เคืองขึ้นมาจะไม่ยอมรับคำขอโทษง่ายๆอีกต่างหาก ถ้าไปแข่งหรือทะเลาะกับพวกเค้า แล้วเราดันชนะ ก็จะโดนโจมตีไม่เลิกอยู่ดี เพราะพวกเค้าจะเริ่มเล่นบท 'เหยื่อผู้น่าสงสาร' ทำให้ตัวเองดูน่าเห็นอกเห็นใจ ส่วนเราก็กลายเป็นคนผิด ดูแย่ในสายตาเพื่อนๆไปซะ
  • ถ้าเห็นคนที่ชอบพูดถึงคนอื่นในแนวชวนตลกขบขันอย่างไม่สมควรล่ะก็ นั่นก็ใช่ เป็นตลกร้ายที่ออกแนวหัวเราะเยาะ แสดงให้เห็นถึงความไม่แยแสความรู้สึกคนอื่น ยิ่งความรู้สึกสงสาร เห็นอกเห็นใจคนอื่นก็ยิ่งทำไม่เป็นใหญ่
  • เพราะ 'my-way's-the-only-way' attitude นี่เอง พวกเค้าจึงไม่มีความสามารถในการมองสิ่งต่างๆในแง่มุมอื่นที่ต่างไป หากต้องเสวนาด้วย และไม่เห็นด้วยกับความคิดบางอย่าง ก็ให้เลี่ยงด้วยการบอกว่า "ฉั้นไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ เพราะว่า.........." มากกว่าที่จะพยายามพูดเพื่อโน้มน้าวให้พวกเค้าเปลี่ยนวิธีคิดหรือมุมมอง เพราะนั่นจะทำให้เค้ารู้สึกเหมือนถูกโจมตีโลกแห่งความสมบูรณ์แบบที่พวกเค้าสร้างไว้ 
  • ถ้าเป็นไปได้ 'อย่าเกลียด' พวกเค้า เพราะไม่มีใครหรอกที่จะสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง มันเป็นวิธีที่พวกเค้าใช้เก็บซ่อนอดีตที่เจ็บปวด หรือความไม่สมบูรณ์แบบบางอย่างของตัวเองเท่านั้น หรือเป็นไปได้ว่าอาจเคยโดนใครทำร้ายมาด้วยวิธีเดียวกันและพยายามใช้วิธีเดียวกันในการไถ่ถอนความเจ็บปวดให้ตัวเอง
  • ข่าวร้ายอีกอย่างคือ คนประเภทนี้จะไม่ค่อยรู้ขอบเขตในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลซะด้วยสิ
  • เพราะฉะนั้น หากต้องการเอาชนะใจหรือแก้เผ็ด อุ๊ปส์! ^^ สิ่งที่พวกเค้ากลัวที่สุดคือ การไม่เป็นที่(น่า)สนใจ การไม่ใส่ใจ ถามมาตอบไปสั้นๆ หรือการทำเป็นไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่พวกเค้าพูดหรือแสดงออกแบบผิดๆแปลกๆ หรือแสดงให้พวกเค้ารับรู้ว่าเราไม่ต้องการมีพวกเค้าอยู่ใกล้ๆด้วยการไม่สื่อสารด้วยมากนัก พบปะให้น้อยลง แสดงความสนใจหรือใส่ใจพวกเค้าให้น้อยลง พวกเค้าจะรับรู้ได้ถึงความไม่เป็นคนสำคัญ ไม่น่าสนใจ ไม่ปลอดภัยและสูญเสียความมั่นใจอย่างมาก
  • ไม่มีใครที่สมควรได้รับการปฏิบัติแย่ๆจากคนเย่อหยิ่ง หลงตัวเอง หรือคนชอบเรียกร้องความสนใจ จำไว้เสมอว่าพวกเค้าไม่เคยชอบใครที่แตกต่างไปจากตัวเอง เพราะฉะนั้น 'ไม่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องชอบ ไม่มีอะไรที่ต้องเปลี่ยนแปลง'  
  • ปล่อยให้พวกเค้าเริ่มมองเห็นหรือค้นพบเอาเองว่าเราก็ 'มีดี' เหมือนกันและจงภูมิใจในส่ิงท่ีตัวเราเป็นและมีอยู่  พฤติกรรมแย่ๆที่เคยปฏิบัติกับเราอาจจะเปลี่ยนไป(หรืออาจจะไม่) หรือพวกเค้่าอาจจะใช้ความพยายามมากขึ้นอีกเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่มันจะไม่มีผลต่อความรู้สึกเราอีกต่อไปเพราะเมื่อเราอยู่ห่างๆพวกเค้าไว้ เราก็จะค่อยๆรู้สึกเจ็บปวดกับพฤติกรรมของคนประเภทนี้น้อยลงไปเอง
คนประเภทนี้ ถ้าสามารถนึกถึงแต่ตัวเองให้น้อยลงบ้าง รู้จักแบ่งปันความสุขหรือยินดีกับความสุขของคนอื่นด้วยใจจริงบ้าง พวกเค้าอาจจะรู้สึกเติมเต็ม และมีความสุขกับสิ่งดีๆที่มีอยู่ในตัว โดยไม่ต้องพยายามสร้างภาพเพื่อปิดบังซ่อนเร้นความเจ็บปวดใดๆอีก แต่นี่แหละ คือ คนประเภทหนึ่งที่มีอยู่ในสังคมจริงๆ ไม่ว่าที่ไหนในโลก บางทีคนประเภทนี้อาจกำลังวนเวียนอยู่ในชีวิตเราโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ลองสังเกตุดูดีๆ

รู้อย่างงี้แล้ว ฉั้นคงต้องพยายามเรียนรู้ที่จะรับมือกับความรู้สึกตัวเองแทน ไม่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในภาวะจิตตกอีกเป็นอันขาด

1 ความคิดเห็น:

  1. หนูยังไม่เคยเจอคนประเภทที่พี่ก้อยกล่าวถึง ที่บราซิลนี่หรอกนะคะ สงสัยเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกสังคมไปเจอเพื่อนของเพื่อน หรือเพื่อนของญาติซักเท่าไหร่ ที่ผ่านมา มีแต่ครอบครัว ญาติ เพื่อนสนิทญาติๆ ซึ่งทุกคนก็ดูเป็นมิตร น่ารักกันทุกคน

    ส่วนเพื่อนร่วมงานสามี มีไปเจอบ้าง ตอนทานข้าวเที่ยง แต่ถ้าไปหลายคน ก็ไม่ค่อยมีใครคุยกับหนู ฮะๆๆ เค้ารู้ว่าโปรตุกีสไม่แข็งแรง เว้นแต่ไปกัน 2-3คน ก็จะชวนคุย ภาษาอังกฤษบ้าง โปรตุกีสบ้าง

    คนแบบนี้ หนูเคยเจอมาจังๆ ตอนทำงาน UN ก็รู้สึกอึ้งตอนแรก เพราะท่าที่พวกเธอ ชัดเจนมาก อย่างที่พี่ก้อยว่าจริงๆ คือมองหัวจรดเท้า แล้วก็ไม่คุบด้วย ทั้งๆ ที่เพื่อนเราคือคนเดียวกัน ก็ไม่รู้ว่าเพราะหนู มีตำแหน่งต้อยต่ำ หรือเพราะอะไร แต่หนูก็ทำไม่สนใจ ไม่คุย เฉยๆ ไปแค่นั้น แต่ทุกครั้งที่ต้องเจอ ก็ต้องทีอาการ ที่เค้าเรียกว่า awkward ทุกที เพราะเค้าไม่เคยจำเรา พอเจอกันอีก ก็แนะนำตัวเองอีก หนูก็ยิ้ม พยักหน้า จบไป

    หนูเพิ่งเกิดมา 27ปี ก็มีคนมากมาย หลายประเภท ก็คงต้องเรียนรู้กันไป :)

    ตอบลบ

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...