ทุกการตัดสินใจ แฝงความอิ่มเอมและความเจ็บปวดบางอย่างเสมอ
ณ จุดหนึ่งของชีวิต ที่ฉั้นเรียนรู้และยอมรับว่าการตัดสินใจทุกครั้ง เรามักได้บางอย่างและสูญเสียบางอย่างไป มันเป็นเรื่องที่รู้อยู่แก่ใจ เพียงแต่ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้ง เพราะชีวิตที่เติบโตขึ้นทำให้ต้องเปลี่ยนวีธีคิดและมุมมองซะใหม่ว่า แท้จริงแล้วมันไม่ใช่การสูญเสียอะไร มันเป็นแค่การสละอะไรบางอย่างในชีวิตไปเท่านั้น
อาจเพราะตัวฉั้นเองเป็นคนแบบนี้ เป็นคนที่ไม่สามารถมีชีวิตแบบเดิมๆได้ เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า สำหรับฉั้น "การเดินอยู่กับที่" ไม่ต่างอะไรกับ "การเดินถอยหลัง" ทุกอย่างที่ควรจะเป็นไปและเกิดขึ้นในชีวิตหนึ่งของคนเราต่างมีช่วงเวลาที่เหมาะสมของตัวมันเอง ดังนั้น เมื่อบางอย่างต้องเปลี่ยนไปจากเดิมด้วยสาเหตุว่า มันเป็นจังหวะหนึ่งของชีวิตที่ถูกต้องและเหมาะสม การทำใจในเรื่องบางเรื่อง เช่น มิตรภาพบางมิตรภาพที่เปราะบาง ความทรมานที่ไม่ได้คาดหวัง บางความคิดถึงที่ยากจะสื่อสาร บางความน้อยใจจากความเหงาปนเศร้า และบางสิ่งบางอย่างที่พยามทำดีที่สุดแล้วได้ผลลัพธ์เท่าทีเห็น ก็เป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจและยอมรับ พร้อมกับความจริงอีกเรื่องที่ฉั้นเคยได้ยินว่า
"เหตุผลที่ใครสักคนไม่ติดต่อกลับมาหาเรา ทั้งที่ยังมีลมหายใจ และมีหนทางให้ติดต่อสารพัด จะมีอะไรได้นอกจาก "ไม่คิดถึง" และ "ไม่เห็นคุณค่า"
และในขณะเดียวกัน เหตุผลที่ใครซักคนต้องตามหาคนที่หายไป จะมีเหตุผลอะไรมากมายไปกว่า "คิดถึง" และ "เห็นค่า"
"เหตุผลที่ใครสักคนไม่ติดต่อกลับมาหาเรา ทั้งที่ยังมีลมหายใจ และมีหนทางให้ติดต่อสารพัด จะมีอะไรได้นอกจาก "ไม่คิดถึง" และ "ไม่เห็นคุณค่า"
และในขณะเดียวกัน เหตุผลที่ใครซักคนต้องตามหาคนที่หายไป จะมีเหตุผลอะไรมากมายไปกว่า "คิดถึง" และ "เห็นค่า"
จึงเป็นที่มาของบททดสอบด่านสุดท้าย "หากฉั้นจะสามารถมีความสุขอยู่กับปัจจุบันได้ ฉั้นจะสามารถมีความสุขในการอยู่ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้..."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น